กบง.ตรึงราคาขายปลีกก๊าซหุงต้มถังขนาด15 กิโลกรัม


.ที่ 318 บาทต่อเดือนระหว่างต.ค.-ธ.ค.นี้
.เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายประชาชน
.ส่ังหน่วยงานที่เก่ียวข้องหาทางลดค่าไฟฟ้า

นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่า กบง.ได้เห็นชอบให้คงราคาขายปลีกก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) ที่ราคาขายปลีก 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม(กก.) ออกไปอีก 3 เดือนหรือตั้งแต่ 1 ต.ค.-31ธ.ค.นี้ โดยใช้เงินกองทุนน้ำมันในส่วนของบัญชีแอลพีจีมาบริหาร ช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชน

การตรึงราคาดังกล่าว สามารถใช้เงินจากกองทุนน้ำมัน มาบริหารได้ตามกรอบวงเงินของคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมัน(กบน.)ที่กำหนดไว้ไม่ให้เกิน 10,000 ล้านบาท โดยประเมินว่าราคาแอลพีจีตลาดโลกเฉลี่ยถึงสิ้นปีนี้จะอยู่ระดับ354 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ท่ีจะใช้เงินอุดหนุนเฉลี่ยเดือนละ 450 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้กองทุนน้ำมันในส่วนของบัญชีแอลพีจี ติดลบ7,429 ล้านบาท แต่มั่นใจว่าใน3เดือนข้างหน้า สามารถรับมือได้ และยังมีมติให้กรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.)เป็นผู้อนุญาตให้ผู้ค้ามาตรา7 ส่งออกแอลพีจี เป็นรายเที่ยวแต่ต้องไม่เกินกว่าส่วนเกิน จากความต้องการใช้ภายในประเทศ

“กบง.ได้เห็นชอบแนวทางลดภาระค่าใช้จ่ายสำหรับประชาชน โดยส่ังการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปศึกษาการลดภาระค่าไฟฟ้า ซ่ึงคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) และสนพ. ต้องหาทาง ช่วยลดค่าครองชีพประชาชนในช่วงโควิด-19 ได้แก่ การทบทวนอัตราส่วนผลตอบแทน ต่อเงินลงทุนเพื่อการดำเนินงาน (ROIC) ของ 3 การไฟฟ้าที่ขณะนี้อยู่ที่ 5% ให้กลับไปอิงอัตราส่วนการลงทุน จากเงินรายได้(SFR)ที่อดีตก็เคยใช้เพื่อให้กำไร ที่ได้รับสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง”

นอกจากนี้ ให้ไปศึกษาการปรับลด ปริมาณสำรองไฟฟ้าที่ปัจจุบันสูงถึง 37-40% ซึ่งจากการประเมินตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า ของประเทศไทย(พีดีพี 2018)ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 จะมีปริมาณสูงมาก ใน10 ปีแรกแต่ 10 ปีหลังจากน้ันไฟฟ้า สำรองเฉลี่ย จะอยู่ท่ีระดับ 17% โดยแผนงานที่จะปรับก็กำลังพิจารณาเช่น การขายไฟส่วนเกินให้ประเทศเพื่อนบ้าน เป็นต้น

” แนวทางลดค่าใช้จ่ายประชาชน กำชับให้ไปดู เรื่องของก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี)ที่มอบให้กกพ.ไปทบทวนต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติ เพื่อให้ราคาขายปลีกเอ็นจีวีหรือก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ ให้ สะท้อนต้นทุนและบรรเทาผลกระทบประชาชน และการทบทวนการกำหนดราคาก๊าซธรรมชาติ โดยให้กำหนดอัตราค่าบริการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ และทบทวนค่าบริการขนส่งก๊าซธรรมชาติ ทางท่อให้เหมาะสมโดยให้นำข้อสรุปมาเสนอให้กบง.พิจารณาในการประชุมคร้ังต่อไป และที่ประชุมยังเห็นชอบให้ธพ.ปรับเปลี่ยนชื่อเรียกกลุ่มน้ำมันดีเซลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ “