กทพ.เดินหน้าสร้างทางพิเศษใหม่”กะทู้ป่าตอง-ฉลองรัช นครนายก สระบุรี”

การทางพิเศษฯเดินหน้าพัฒนายกระดับผู้ใช้ทางด่วน ดีเดย์!เดือนต.ค.นี้เปิด M Flow 4ด่าน มั่นใจช่วยระบายรถ แก้ปัญหาจราจรติดขัดหน้าด่านได้ นำระบบAI บริหารจัดการจราจรให้ผู้ใช้ทางทราบการจรจรผ่านป้ายอัจฉริยะ เป็นระยะๆ พร้อมเดินหน้าโครงการ”พระราม3-ดาวคะนอง”มั่นใจปี67แล้วเสร็จ ปี65ทุ่มงบ 3.8 หมื่นล้านบาทเดินหน้า ”กะทู้ป่าตอง-ฉลองรัช วงแหวนรอบนอก”หวังแก้ปัญจราจรระหว่างจังหวัด

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานบอร์ด การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินการในปี 65 ว่า การทางพิเศษนอกจากทำหน้าที่ในการสร้างทางพิเศษให้ผู้ใช้ทางแล้ว ในปีนี้จะเน้นคอนเซ็ปต์ของผู้ใช้บริการทางพิเศษจากผู้ใช้ทางเป็นผู้รับการบริการ โดยจะคำนึงถึงการให้บริการผู้ใช้ทางได้รับความสะดวกสบาย รวดเร็ว ซึ่งในปีนี้ กทพ.จะนำระบบการจัดเก็บค่าผ่านทางแบบอัตโนมัติ ที่ไม่มีไม้กั้น หรือ M Flow มาใช้บนทางพิเศษของ กทพ. ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ที่ต้องการเข้ามาแก้ไขปัญหารถติดหน้าด่าน

.ดีเดย์ ต.ค.นี้เปิด M Flow 4ด่าน

ทั้งนี้ตามกำหนดทาง กทพ.จะนำระบบเก็บค่าผ่านทางแบบ M Flow มาใช้บนทางพิเศษของ กทพ.ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 4 ระยะคือ ระยะที่ 1 ทางด่วนฉลองรัช รวม 3 ด่าน  ด่านจตุโชติ ด่านสุขาภิบาล 5-1 และ ด่านสุขาภิบาล 5-2 ซึ่งจะเปิดให้บริการในเดือน ต.ค. 65 , ส่วนระยะที่ 2 ทางพิเศษฉลองรัช  บูรพาวิถี และวงแหวนกาญจนาภิเษกฯ รวม 60 ด่าน เปิดให้บริการได้ประมาณปลายปี 66 ,และระยะที่ 3 ทางพิเศษ เฉลิมมหานคร ศรีรัช อุดรรัถยา และศรีรัช-วงแหวนรอบนอก รวม 72 ด่าน  ซึ่งจะเปิดปลายปี 67

ซึ่งนอกจากการนำระบบเก็บค่าผ่านทาง M Flowมาใช้แล้ว ในปีนี้ กทพ.จะเน้นการนำเทคโนโลยี AI มาบริหารจัดการจราจรบนทางด่วนและบริเวณทางขึ้นและลง ทางพิเศษทุกจุด  ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้ทางพิเศษก่อนจะวิ่งลงทางด่วนสามารถรู้การจราจรข้างหน้าบริเวณทางลงที่จะไปนั้นว่า รถติด หรือ ไม่ติด เนื่องจากระบบAIจะจับสัญญาณภาพความหนาแน่นจราจรบริเวณหน้าด่าน บนท้องถนน และแจ้งให้ผู้ใช้ทางทราบผ่านป้ายอัจฉริยะ เป็นระยะๆ

นอกจากนั้นในส่วนของการเพิ่มการบริการในปีนี้จะเร่งปรับปรุงห้องน้ำบริเวณทางพิเศษทั้งหมด 18 จุด คาดว่าจะใช้งบประมาณกว่า 10 ล้านบาท ขณะเดียวกันจะเร่งพัฒนาพื้นที่ใต้ทางด่วนกว่า 1 ล้านตารางวา รองรับพื้นที่ชุมชนให้เป็นพื้นที่ออกกำลังกาย สันทนาการ รวมถึงเป็นพื้นที่ใช้ประโยชน์กับหน่วยงานราชการ โรงพยาบาล และเป็นแหล่งค้าขายในชุมชน

.”พระราม3-ดาวคะนอง”แก้รถติด

ส่วนความคืบหน้าในการดำเนินการโครงการก่อสร้าง ทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ระยะทางรวม 18.7 กิโลเมตรนั้น วงเงินลงทุนประมาณ 3 หมื่นล้านบาทนั้น กทพ.ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่เดือนมิ.ย. 62 ขณะนี้ภาพรวมการก่อสร้างเร็วกกว่าแผน คาดว่าจะแล้วเสร็จ พร้อมเปิดให้บริการได้ในปี 67 

โดยโครงการฯ มีจุดเริ่มต้นที่ กม. 13+000 บนถนนพระราม 2 ก่อสร้างซ้อนทับไปตามแนวเกาะกลางถนนพระราม 2 ในทิศตะวันออกเฉียงเหนือจนถึงดาวคะนอง จากนั้นแนวเส้นทางจะเบนไปทางขวาเข้าซ้อนทับกับทางพิเศษเฉลิมมหานครและข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณสะพานพระราม 9 โดยจะก่อสร้างสะพานขึงขนาด 8 ช่องจราจร ขนานอยู่ทางด้านทิศใต้ของสะพานพระราม 9 จากนั้นแนวเส้นทางจะเชื่อมต่อกับทางพิเศษศรีรัชและทางพิเศษเฉลิมมหานครบริเวณทางแยกต่างระดับบางโคล่ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดโครงการฯ  โครงการฯ มีทางขึ้น-ลงจำนวน 7 แห่ง 

อย่างไรก็ตามในการดำเนินการโครงการได้แบ่งออกเป็น 5 สัญญา ประกอบด้วย สัญญาที่ 1-4 เป็นงานโยธา และสัญญาที่ 5 เป็นงานระบบจัดเก็บค่าผ่านทางและระบบควบคุมการจราจรและระบบสื่อสาร  ซึ่งอยู่ระหว่างปรับปรุงร่างขอบเขตของงานจ้างก่อสร้างให้ระบบจัดเก็บค่าผ่านทางเป็นระบบอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) บริเวณตู้เก็บค่าผ่านทางซึ่งเป็นระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย ช่วยระบายการจราจรหน้าด่านฯ ได้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งสอดคล้องและสามารถเชื่อมต่อกับระบบจัดเก็บค่าผ่านทางของโครงการทางยกระดับบนถนนทางหลวงหมายเลข 35 ของกรมทางหลวงในอนาคต

.ปี65เร่งผุด”กะทู้ป่าตอง-ฉลองรัชวงแหวน”

อย่างไรก็ตามในปีนี้ กทพ. จะเร่งดำเนินการ โครงการทางพิเศษสายกะทู้ – ป่าตอง จ.ภูเก็ต ระยะทางรวม 3.98 กม. รูปแบบการลงทุน PPP Net Cost ระยะเวลาสัญญารวม 35 ปี มูลค่าลงทุนรวม 14,470 ล้านบาท คาดว่าประกาศเชิญชวน ขาย RFP พ.ย. 65 ,เอกชนยื่นข้อเสนอ มี.ค. 66 หลังจากได้ผู้ดำเนินการ กระทรวงคมนาคมจะเสนอ ครม. เห็นชอบ ลงนามสัญญา ต.ค. – พ.ย. 66 คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในเดือน ธ.ค. 66 และเปิดให้บริการ ธ.ค. 70

นายสรพงศ์ กล่าวต่อว่า และเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการจราจรทางฝั่งตะวันออกของ กทม. และปริมณฑลและเพิ่มศักยภาพโครงข่ายทางด่วนเชื่อมต่อถนนวงแหวนรอบที่ 3 อย่างสมบูรณ์ ในการประชุมบอร์ด กทพ. ในวันที่ 24  พ.ค.นี้ ฝ่ายบริหารกทพ.จะเสนอขออนุมัติดำเนินการในโครงการ ทางพิเศษสายฉลองรัช – นครนายก-สระบุรี ระยะที่ 1 (ช่วงจตุโชติ – ลำลูกกา) ระยะทางรวม 16.21 กม. มูลค่าค่าลงทุนรวม 24,060 ล้านบาท 

ซึ่งเส้นทางจะเริ่มต้นเชื่อมทางพิเศษฉลองรัช บริเวณด่านจตุโชติ ข้าม ถ.วงแหวนกาญจนาภิเษก (M9) ข้าม ถ.หทัยราษฎร์ สิ้นสุดที่ ถ.ลำลูกกา ระหว่างคลอง 9 กับคลอง 10 ส่วนรูปแบบลงทุนแบบ PSC (รัฐลงทุน) โดย กทพ. บริหารจัดการ รวมเก็บค่าผ่านทางเองทั้งหมด ซึ่งขั้นตอนหลังบอร์ด กทพ.อนุมัติ จะเสนอต่อกระทรวงคมนาคม และเสนอขออนุมัติจาก ครม. ไม่เกิน ส.ค. 65 และคาดว่าจะเริ่มประกวดราคา ในช่วง ก.ย. 65 – มิ.ย. 66 เริ่มก่อสร้าง ก.ค. 67 และเปิดให้บริการได้ในเดือน ก.ค. 70