- ลั่นต้องจบ”อาร์เซ็ป”ให้ได้ในสิ้นปีนี้ตามเป้า
- ลุยเอฟทีเอค้างท่อ-ฟื้นเจรจากับอียู
- ชง”กนศ.-ครม.”ร่วมหรือไม่ร่วม”ซีพีทีพีพี”
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 62 กรมจะเร่งเจรจาการค้าระหว่างประเทศตามนโยบายที่ได้รับจากรัฐมนตรีพาณิชย์ ทั้งนายนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ และนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ โดยมี 5 เรื่องเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ คือ เร่งหาข้อสรุปการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) , สานต่อการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่ค้างอยู่, ฟื้นเจรจาเอฟทีเอไทย-สหภาพยุโรป (อียู) , หาข้อสรุปการเข้าร่วมความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (ซีพีทีพีพี) และเตรียมเจรจาเอฟทีเอไทย-สหราชอาณาจักร
สำหรับอาร์เซ็ป นายจุรินทร์ จะเป็นประธานการประชุมระดับรัฐมนตรีในวันที่ 7-8 ก.ย.62 ที่กรุงเทพฯ เพื่อขับเคลื่อนการเจรจาให้สมาชิกทั้ง 16 ประเทศ หาข้อสรุปในประเด็นที่ยังมีความเห็นและท่าทีที่ต่างกัน เช่น พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กลไกการระงับข้อพิพาท การลงทุน การเคลื่อนย้ายบุคคล เป็นต้น เพื่อให้การเจรจาสำเร็จได้ในปีนี้ ส่วนเอฟทีเอที่ค้างอยู่ อย่าง ไทย-ปากีสถาน จะประชุมรอบต่อไปเดือนต.ค.62, ไทย-ตุรกี จะหารือเดือนธ.ค.62 และไทย-ศรีลังกา อยู่ระหว่างรอความพร้อม หลังศรีลังกาปรับคณะเจรจา
ส่วนการฟื้นเอฟทีเอไทย-อียู คาดว่า ผลการศึกษาและการรวบรวมความเห็นของภาคส่วนต่างๆ ของไทยจะเสร็จปลายเดือนต.ค.62 จากนั้นกรมจะเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา ขณะที่การเข้าร่วมซีพีทีพีพีหรือไม่นั้น กรมจะนำผลการศึกษาข้อดีข้อเสีย และผลการระดมความเห็นจากทุกภาคส่วน เสนอต่อ กนศ. และครม.เร็วๆ นี้
ขณะที่การเตรียมเจรจาเอฟทีเอกับสหราชอาณาจักร ภายหลังออกจากการเป็นสมาชิกอียู (เบร็กซิท) ขณะนี้ อยู่ระหว่างหารือกับสหราชอาณาจักรเรื่องการจัดทำข้อมูลนโยบายการค้า และศึกษาความเป็นไปได้ นอกจากนี้ กรมยังเตรียมสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องเอฟทีเอ ประโยชน์ที่ไทยจะได้รับ ผลกระทบ และการปรับตัวของไทย โดยจะลงพื้นที่ไปทั่วประเทศ และเน้นกลุ่มผู้ผลิตและเกษตรกรในสินค้าเกษตรสำคัญ เช่น ข้าว ยาง มันสำปะหลัง ผัก ผลไม้ โคนม โคเนื้อ เป็นต้น