“เอมิเรตส์” รุกบินฤดูร้อนเริ่ม 26 มี.ค. เพิ่มทั่วโลก 31% กรุงเทพฯ 5 เที่ยว/วัน-ใช้ A380 ลุยขายที่นั่งยุโรป&เอเชีย

  • “เอมิเรตส์”สายการบินแถวหน้าของโลกลุยเปิดตารางบินฤดูร้อนทั่วโลกเพิ่ม 31 % เริ่ม 26 มี.ค.นี้
  • ปักธงบิน ไป-กลับ ดูไบ-กรุงเทพฯ มากถึงวันละ5 เที่ยว เริ่ม 1 ส.ค.66
  • ชูใช้ฝูงบินใหญ่สุดแอร์บัส A380 ขนาด 2 ชั้น เชื่อมการเดินทาง 4 ทวีป เอเชีย ยุโรป แอฟริกา ออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์

สายการบินเอมิเรตส์ รายงานว่า วางแผนให้บริการช่วงตารางบินฤดูร้อน (Summer Schdule) เริ่มตั้งแต่ 26 มีนาคม-ปลายตุลาคม 2566 จะเพิ่มการดำเนินงานด้านที่นั่งต่อกิโลเมตรมากขึ้นอีก 31% (ASKM : Availabel Seat Kilometre) สู่เครือข่ายเส้นทางบินจุดหมายปลายทางต่าง ๆ โดยกลับมาบินบริการ 5 เมือง เปิดจุดหมายใหม่ 1 เส้นทาง คือ เทลอาวีฟ) และบินในเส้นทางปัจจุบันรายสัปดาห์เพิ่มเป็น 251 เที่ยว ควบคู่กับมุ่งปรับปรุงการบริการต่อเนื่องทางอากาศและภาคพื้นดิน เพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้โดยสารจากทั่วโลก  

ตลอดตารางบินฤดูร้อนปี 2566 เอมิเรตน์ ยังคงเน้นใช้ฝูงบินลำขนาดใหญ่สุดแอร์บัส A380 ด้วยสัญลักษณ์ที่นั่งสองชั้นให้บริการในเส้นทางใหม่ ไป-กลับ สนามบินนานาชาติดูไบ สหรัฐอาหรับเมริเรตส์ สู่ปลายทาง ได้แก่ สหราชอาณาจักร 2 เส้นทาง คือ “กลาสโกว์” เริ่ม 26 มีนาคม และเบอร์มิ่งแฮม เริ่ม 1 กรกฎาคม “คาซาบลังก้า” โมร็อกโคริ่ม15 เมษายน สาธารณรัฐประชาชน 2 เมือง คือ“ปักกิ่ง” เริ่ม 1 พฤษภาคม และเซี่ยงไฮ้ เริ่ม 4 มิถุนายน “นีซ” ฝรั่งเศส เริ่ม 1 มิถุนายนกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย และไทเป ไต้หวัน เริ่ม 1 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป

สำหรับเส้นทางบินแบ่งตามทวีปหลัก  จะให้บริการด้วยความถี่เที่ยวบินทยอยเพิ่มแต่ละเดือนดังต่อไปนี้

“ภูมิภาคเอเชียตะวันออก” ไป-กลับ ดูไบ – กรุงเทพฯ (ประเทศไทย) เพิ่มเป็นวันละ 5 เที่ยว เริ่ม 1 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป “ปักกิ่ง” บินตรงทุกวัน ด้วยโบอิ้ง 777-300ER เริ่ม 15 มีนาคม จากนั้นจะเปลี่ยนเป็นแอร์บัส A380 เริ่ม 1 พฤษภาคม นี้ “ฮ่องกง”  29 มีนาคม จะบินสัปดาห์ละ 14 เที่ยว โดยบินวันละ 2 เที่ยว มี 1 เที่ยว เป็นเที่ยวบินเดิม ดูไบ-กรุงเทพฯ-ฮ่องกง “กัวลาลัมเปอร์” เพิ่มเป็นวันละ 3 เที่ยวตั้งแต่ 1 มิถุนายน

“โตเกียว” จะกลับมาบินสู่โตเกียว ขึ้นลงที่สนามบินนานาชาติฮาเดนะ ทุกวัน เริ่ม 2 เมษายน ส่งผลให้มีเที่ยวสู่ญี่ปุ่นเพิ่มเป็นวันละ 21 เที่ยว โดยใช้แอร์บัส A380 บินโตเกียว ขึ้นลงที่สนามบินนานาชาตินาริตะ และมีเที่ยวบินสู่ “โอซาก้า” ทุกวันด้วยฝูงบินโบอิ้ง 777

“ทวีปยุโรป” จะบิน “อัมสเตอร์ดัม” เนเธอร์แลนด์ เพิ่มเป็นสัปดาห์ละ 19 จากปัจจุบันมี14 เที่ยว เริ่ม 2 เมษายน“เอเธนส์” กรีซ จะเพิ่มตามฤดูกาลเริ่ม 1 มิถุนายน-30 กันยายน ส่วน อิตาลี บิน 2 เส้นทาง คือ “โบโลญญา” เพิ่มเป็นบินทุกวัน หรือสัปดาห์ละ 7 จากปัจจุบัน 5 เที่ยว เริ่ม 1 พฤษภาคม และ “เวนิส” เพิ่มเป็นสัปดาห์ 6 จากปัจจุบัน 5  เที่ยว เริ่ม 26 มีนาคม และจะบินสัปดาห์ละ 7 เที่ยว หรือบินทุกวันละ 1 เที่ยว เริ่ม 1 มิถุนายน ส่วน “บูดาเปสต์” ฮังการีเพิ่มเป็นสัปดาห์ละ 7 จากปัจจุบัน 5 เที่ยว เริ่ม 1 มิถุนายน

“ลอนดอน” สหราชอาณาจักร เพิ่มวันละ 2 เที่ยว ขึ้นลงสนามบินลอนดอนสแตนสเต็ด เริ่ม 1 พฤษภาคม ทำให้มีเที่ยวบินสู่กรุงลอนดอนเพิ่มเป็นวันละ 11 เที่ยว ร่วมกับเที่ยวบินปัจจุบัน ขึ้นลงอยู่แล้ว 2 สนามบิน คือลอนดอนฮีทโธรว์ และลอนดอนแกตวิค 3 เที่ยว

“ทวีปแอฟริกา” ไป-กลับ ดูไบสู่ปลายทาง “ไคโร” อียิปต์ เพิ่มเป็นสัปดาห์ละ 28 จากปัจจุบัน 25 เที่ยว ภายใน 29 ตุลาคม “ดาร์เอสซาลาม” เซอร์เบีย เพิ่มเป็นสัปดาห์ละ 7 จากปัจจุบัน 5 เที่ยว เริ่ม 1 พฤษภาคม “เอนเทบเบ” ยูกันด้าเพิ่มเป็นสัปดาห์ละ 7 จากปัจจุบัน 6 เที่ยว เริ่ม 1 กรกฎาคม นี้เป็นต้นไป

เอเชียแปซิฟิก “ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์” จะเพิ่มเที่ยวความถี่บินตรงสู่ออสเตรเลียให้เท่ากับก่อนเกิดโควิด-19 โรคระบาด โดยจะบินทั้ง 3 เส้นทาง คือ “ซิดนีย์” เพิ่มเป็นวันละ 3 เที่ยว เริ่ม 1 พฤษภาคม “เมลเบิร์น” เริ่ม 26 มีนาคม วันละ 3 เที่ยว นับรวมเที่ยวผ่านสิงคโปร์สู่เมลเบิร์น 1 เที่ยว และบินตรงจากดูไบ 2 เที่ยว “บริสเบน” เริ่ม 1 มิถุนายนเป็นต้นไป จะเพิ่มเป็นสัปดาห์ละ 11 เที่ยว ส่วน “ไครสต์เชิร์ช” กลับมาบินรายวันจากดูไบผ่านซิดนีย์ เริ่ม 26 มีนาคม2566 เป็นต้นไป

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen