

- ประธานหัวเว่ยระบุไม่ได้พัฒนา “หงเหมิง” มาใช้ในสมาร์ทโฟนหัวเว่ย
- สร้างความสับสนให้ผู้บริโภคเพราะผู้บริหารหัวเว่ยพูดไม่ตรงกัน
- คาดยังใช้ “แอนดรอยด์” เหมือนเดิม หวั่นผู้บริโภคไม่สามารถย้ายแอปใน PlayStore ตาม
สถานการณ์กู้วิกฤตของยักษ์ใหญ่จากค่ายจีน “หัวเว่ย” กำลังสร้างความสับสนให้กลุ่มผู้บริโภคและผู้ติดตามข่าวสารเป็นอย่างยิ่ง หลังจากมีกระแสข่าวว่าเร่งพัฒนาระบบปฏิบัติการ (OS) หงเหมิง (HongMeng) และจะรีบนำมาใช้ทดแทน OS แอนดรอยด์ของ Google ภายในปีนี้แถมยังออกข่าวด้วยว่า OS ดังกล่าวมีความรวดเร็วกว่า OS อื่นๆ เพื่อแก้ปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนดังที่ทราบกัน
แต่ล่าสุด นายเหลียงฮั่ว (Liang Hua) ประธานของหัวเว่ย กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่เมืองเซินเจิ้น ติดตามความคืบหน้ากรณดังกล่าวด้วยความผิดหวังว่า “เรายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะพัฒนาหงเหมิงให้เป็นระบบปฏิบัติการสมาร์ทโฟนหรือไม่” นับเป็นเป็นการพูดที่แตกต่างจาก นายเหริน เจิ้น เฟย ผู้ก่อตั้งหัวเว่ยกล่าวที่ประเทศฝรั่งเศสเมื่อเร็วๆ นี้ถึวงเรื่องการเร่งนำ “หงเหมิง” มาใช้
พร้อมกล่าวด้วยว่า หงเหมิงไม่ได้ถูกออกแบบมาสำหรับสมาร์ทโฟนดังที่ทุกๆ คนคิด หัวเว่ยไม่ได้พัฒนา OS ดังกล่าวมาแทนที่ Google และหาก Google ได้ดึง OS แอนดรอยด์ออกจากหัวเว่ยจริง หัวเว่ยจำเป็นต้องเร่ิมสร้างระบบนิเวศน์ (ecosystem) ขึ้นมา เพราะยังไม่มีแผนชัดเจน
ก่อนหน้านี้ ริชาร์ด หยู ซีอีโอ ของหัวเว่ย คอนซูเมอร์ บิสซิเนส ได้กล่าวเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า อาจจะนำ OS ใหม่มาใช้ในฤดูใบไม้นร่วงหรือฤดูใบไม้ผลิในปีนี้ OS หงเหมิง ถูกพัฒนามาตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งอาจจะเข้ากันได้กับแอปพลิเคชั่นบนแอนดรอยด์ และเว็บแอปพลิเคชั่นทั้งหมด ประสิทธิภาพการทำงานจะดีขึ้นกว่า 60%
หัวเว่ยได้เปิดเผยสู่สาธารณะต่อชุมชนนักพัฒนาโดยเสนอเพื่อช่วยให้พวกเขาเข้าถึงอุปกรณ์ Huawei มากกว่า 350 ล้านเครื่องและผู้ใช้ AppGallery ที่มีการใช้งาน 270 ล้านคนต่อเดือน โดย “ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่เพื่อช่วยพัฒนาแอปใน AppGaller คำเชิญให้เข้าร่วมในงานชุมชนนักพัฒนา ของหัวเว่ย
ทั้งนี้การแสดงความเห็นดังกล่าวอาจะตีความได้ว่า หัวเว่ยจะยังใช้ OS แอนดรอย์ชอง Google หลังจากที่ประธานธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัพป์ ได้กล่าวถึงการยกเลิกการแบนหัวเว่ย
ขณะที่ยังมีความเห็นเพิ่มเติมว่า การไม่ใช้ OS หงเหมิงมาใช้เพราะอาจกลัวว่า ผู้บริโภคอาจจะไม่ตามมาซื้อหัวเว่ย เพราะเป็นห่วงว่า แอป ใน Playstore ที่ซื้อและโหลดมาใช้ จะไม่สามารถโอนหรือนำมาใช้ได้ใน OS ใหม่ของหัวเว่ย
ดังมีตัวอย่างที่ผ่านมากับ Nokia แม้จะแก้ไขปัญหาย้ายมาใช้บน OS แอนดรอยด์ แต่ผู้ใช้เดิมก็ไม่สามารถนำแอปนำโอนย้ายตามมาได้ จนเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ Nokia ไม่ได้ไปต่อในธุรกิจสมาร์ทโฟน