- แอล.พี.เอ็น.เผยพระราม 2เปิดตลาดบ้านยังขายดีทำต้องการยังสูง
- ชี้โซนรังสิต–พหลโยธิน, รังสิต–บางซื่อ, บางนาสำโรงลาดกระบังมีแววผุดโครงการใหม่พรึ่บ
- คาดครึ่งปีหลังตลาดบ้านแข่งดุ หลังผู้ประกอบแบนเข็มหนีพัฒนาคอนโดฯเหตุแอลทีวีตลาดจีนกระทบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลอปเมนท์จำกัด(มหาชน)หรือLPNได้เผยผลสำรวจทำเลฮิตติดเทรนด์เปิดตัวโครงการบ้านพักอาศัยในช่วงครึ่งปีแรกของปี2562พบว่าทำเลทองของโครงการบ้านที่เปิดขายได้แก่1.โซนพระราม2 ถือเป็นทำเลอยู่อาศัยใกล้เมืองที่ได้รับความนิยมของผู้บริโภคทำเลหนึ่ง โดยพิสูจน์ได้จากโครงการลุมพินีทาวน์พาร์คท่าข้าม–พระราม2ที่เปิดขายไปแล้วเมื่อปี 2561ซึ่งได้รับผลตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดีส่งผลให้ปลายเดือนส.ค.ที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดขายโครงการลุมพินีทาวน์เพลสพระราม2-ท่าข้ามที่อยู่ในละแวกเดียวกัน เนื่องจากเป็นทำเลที่สามารถเดินทางเข้าสู่ศูนย์กลางธุรกิจได้อย่างสะดวกด้วยทางด่วนซึ่งในอนาคตจะมีทางยกระดับพระราม2บางขุนเทียน–มหาชัยและรถไฟฟ้าสายสีม่วงด้านใต้เตาปูน–ราษฎร์บูรณะที่จะทำให้การเดินจากพระราม2สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นนอกจากนี้พระราม2ยังถูกกำหนดบทบาทให้เป็นศูนย์ชุมชนชานเมืองเปิดพื้นที่การพัฒนาได้มากขึ้น
2.ราชเทวี เพลินจิต สาทร มีโครงการที่น่าสนใจคือสามย่าน บิซิเนสทาวน์ จำนวนยูนิตเปิดตัว32ยูนิต มียอดขาย 91%เนื่องจากทำเลราชเทวี เพลินจิต สาทร เป็นทำเลใจกลางเมืองที่มีศักยภาพการเปิดตัวอสังหาริมทรัพย์ประเภทโฮมออฟฟิศ จึงเป็นที่สนใจของผู้ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยและประกอบธุรกิจด้วย
3.ราษฎร์บูรณะ-บางมด- จอมทอง และรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายช่วงแบริ่งสมุทรปราการ ด้วย 2ทำเลนี้มีการเปิดตัวโครงการที่ค่อนข้างสูง(561ยูนิต และ534ยูนิตตามลำดับ)และมียอดขายค่อนข้างดี 58%เนื่องจากส่วนใหญ่โครงการเปิดตัวของ2 ทำเลนี้อยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายที่กำลังก่อสร้างจึงทำให้น่าสนใจ
สำหรับทำเลที่มีการเปิดโครงการใหม่มากที่สุดได้แก่ชัยพฤกษ์–ถนนสาย 345จำนวน 975ยูนิต รองลงมาคือดอนเมือง วัชรพล สายไหม จำนวน 916ยูนิต ส่วนบ้านเดี่ยวเปิดตัวสูงสุดย่านประเวศ กิ่งแก้ว จำนวน 588ยูนิตและทาวน์เฮาส์เปิดตัวสูงสุดย่านเพชรเกษม บางแค พุทธมณฑลสาย 4จำนวน 624ยูนิต
ส่วนทำเลที่อยู่อาศัยแนวราบที่มีความน่าสนใจในอนาคตนั้นเป็นทำเลชานเมือง ที่อยู่ในโครงข่ายรถไฟฟ้า ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น อาทิด้านเหนือของกทม.เช่นรังสิต–พหลโยธิน โดยเฉพาะตามแนวรถไฟฟ้าสายสีแดง รังสิต–บางซื่อ และสายสีเขียวหมอชิต–คูคตหรือตะวันออกของกทม.เช่น สุขุมวิทตอนปลาย บางนา สำโรง ลาดกระบัง ที่อยู่ในโครงข่ายรถไฟฟ้าสายสีเขียวแบริ่ง–สมุทรปราการ สายสีเหลือง ลาดพร้าว–สำโรงสายสีส้มศูนย์วัฒนธุรรม–มีนบุรี และแอร์พอร์ตลิงค์ เป็นต้น
ทั้งนี้ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัวต่อเนื่องจากปัญหาการส่งออกที่ชะลอตัว และภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวไม่ได้ตามเป้าหมาย รวมถึงความไม่มั่นคงทางการเมืองของรัฐบาลใหม่ และผลกระทบจากมาตรการLTVขณะที่ปัจจัยด้านบวกได้แก่อัตราดอกเบี้ยที่ยังทรงตัวและมีโอกาสที่จะปรับลดลงได้ หากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจยังชะลอตัว รวมถึงเงินบาทยังคงแข็งค่าต่อเนื่อง ขณะที่ซัพพลายจะเข้าสู่ตลาดน้อยลงโดยเฉพาะคอนโดมิเนียม
อย่างไรก็ตามสำหรับตลาดที่อยู่อาศัยประเภทบ้านพักอาศัยในครึ่งปีหลังคาดว่า กำลังซื้อตลาดผู้อยู่อาศัยจริงจะยังมีอยู่ต่อเนื่อง แต่ผู้ซื้อจำเป็นจะต้องปรับตัวในด้านการวางแผนทางการเงินให้ดีขึ้น เนื่องจากมาตรการLTV และความเข้มงวดของธนาคารพาณิชย์ จะทำให้ขอสินเชื่อยากขึ้น ขณะเดียวกันตลาดจะมีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากการที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่หันมาให้น้ำหนักกับการพัฒนาที่อยู่อาศัยประเภทบ้านพักอาศัยเพิ่มขึ้น เนื่องจากโครงการคอนโดมิเนียมซึ่งได้รับผลกระทบจากมาตรการLTV และตลาดจีนที่ชะลอตัวลง จึงหันมาลงทุนพัฒนาโครงการทาวน์เฮาส์ที่มีผลกระทบน้อยกว่าและเป็นตลาดผู้อยู่อาศัยจริงอย่างแท้จริง