อุตตม”โวยังมีงบกระตุ้นเศรษฐกิจก็อก 2



  • เล็งจัดสรรงบปี 64 สู้เศรษฐกิจโลกผันผวน
  • เร่งฟื้นเศรษฐกิจในปี 63 ก่อนตามไม่ทันต่างชาติ
  • ใช้บัตรคนจนซื้อสุราส่งคนตักเตือนแล้วแต่ยังไม่ยึดบัตรคืน

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยในงานดินเนอร์ทอล์กภายใต้หัวข้อ”ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจไทย ภายใต้รัฐบาลใหม่” ว่า ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจโลกมีความผันผวน จนทำให้เกิดปัญหากับระบบเศรษฐกิจทั่วโลก โดยจะเห็นว่าตลาดหุ้นปรับตัวลดลงทั่วโลก เป็นสัญญาณให้เห็นถึงความท้าทายในระบบเศรษฐกิจที่มีความเสี่ยง และประเทศไทยอาจต้องเผชิญหน้ากับปัญหาดังกล่าวต่ออีกสักระยะ ดังนั้นในระยะสั้นจะต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ี่เน้นตรงจุด รวดเร็ว ทันการณ์ โปร่งใส อาทิ การดูแลผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน มาตรการดูแลเกษตรกร และมาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว แจกเงิน 1,000 บาท ที่ช่วยในระยะสั้นเพียง 2-3 เดือนเท่านั้น เป็นต้น เพื่อช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจไทยหมุนเวียนต่อไป

นอกจากนี้ยังมีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดเล็กและกลาง (เอสเอ็มอี) ให้มีกำลังซื้อและสามารถลงทุนได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากหากเศรษฐกิจฐานรากมีความเข้มแข็งจะส่งผลดีกับเศรษฐกิจในภาพรวม รวมทั้งถ้าหากไม่ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ในปี 2563 ประเทศไทยจะไม่สามารถฟื้นตัวตามต่างประเทศได้ทัน

“เมื่อประชาชนมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นแล้ว รัฐบาลเตรียมจัดสรรงบประมาณในปี 2564 เพื่อปรับเปลี่ยนทิศทางในการเดินหน้าประเทศ โดยจะมีการทำข้อตกลงทางการค้าเสรีกับประเทศคู่ค้า รวมถึงเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานตามแผนที่กำหนดไว้”

สำหรับการจัดสรรงบประมาณในปี 2563 และ 2564 ได้ร่วมกับสำนักงบประมาณ เพื่อจัดงบประมาณให้เหมาะสมเพราะว่ามีงบอยู่จำกัด โดยในระยะสั้นจะบริหารจัดการงบประมาณเพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจในช่วงขณะนั้น ส่วนในระยะยาวจะจัดสรรงบประมาณเพื่อปรับเปลี่ยนประเทศ อาทิ ภาคการส่งออกจะไม่ส่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตเท่านั้นแต่จะมีการแปรรูป เป็นต้น โดยยืนยันว่ากระทรวงการคลังยังมีงบเหลือบางส่วนที่จะสามารถออกมาตรการกระตุ้นได้เพิ่มเติมหากเศรษฐกิจมีปัญหา

ส่วนกรณีผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 14.6 ล้านคน ที่ได้รับเงินเพิ่มจากรัฐบาลและสามารถกดเป็นเงินสดได้ โดยมีบางส่วนนำเงินที่ได้จากบัตรคนจนไปซื้อสุรานั้น ขณะนี้ได้รับรายงานแล้วว่าเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าไปติดตามว่าการใช้เงินจากบัตรคนจนเป็นไปตามวัตถุประสงค์หลักหรือไม่ และให้ไปทำความเข้าใจกับผู้ถือบัตรถึงวัตถุประสงค์ในการใช้เงิน ซึ่งเชื่อว่าหากมีการตักเตือนเกิดขึ้น ผู้ถือบัตรคนจนจะมีการฉุกคิดก่อนจะซื้อสินค้าใดๆ อย่างไรก็ตามตอนนี้จะยังไม่มีการยึดบัตรคนจนคืน

“ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการประเมินผลของมาตรการแจกเงินให้ผู้ถือบัตรคนจนเพิ่ม ซึ่งยังเร็วเกินไปที่จะให้คำตอบว่ามาตรการได้ผลดีหรือไม่ โดยผู้ถือบัตรคนจนยังทยอยออกมากดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย ซึ่งได้รับรายงานจากธนาคารกรุงไทยว่า มีปัญหากดเงินไม่ได้ในช่วงแรกเท่านั้น แต่ขณะนี้เป็นปกติแล้ว เพราะมีการเพิ่มเจ้าหน้าที่ให้นำเงินไปเติมเงินในตู้เอทีเอ็มตลอด 24 ชั่วโมง”