“ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้” ขายบิ๊กล็อต 503 ล้านหุ้น ปรับโครงสร้างดัน “โฮลดิ้ง” ถือ 25%



  • เปิดทางให้โฮลดิ้งครอบครัวจรูญเอก “ทุนพีรดา” เข้าถือเพิ่มเป็น 25% 
  • หวังเพิ่มความชัดเจนการถือหุ้น-เพิ่มความคล่องตัวการบริหารจัดการทรัพย์สินครอบครัว
  • ยืนยัน ไม่มีผลกระทบต่อนโยบายและอำนาจบริหารงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ได้ทำการขายหุ้นบิ๊กล็อต จำนวน 503 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 20.52% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมด จากนางอารดาจรูญเอก, เด็กชายพีระ จรูญเอก และเด็กหญิงรดา จรูญเอก ให้กับบริษัท ทุนพีรดา จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งที่ครอบครัวจรูญเอกถือหุ้น 100% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด โดยการได้มาซึ่งหุ้นดังกล่าว ส่งผลให้บริษัท ทุนพีรดา จำกัดถือหุ้น ORI จำนวน 618 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 25.23% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมด

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กล่าวว่า การทำรายการซื้อขายหุ้นบิ๊กล็อตดังกล่าว เป็นการปรับโครงสร้างการถือหุ้นภายในกลุ่มครอบครัว “จรูญเอก” เพื่อให้โครงสร้างการถือหุ้นของครอบครัวจรูญเอกใน “ORI” มีความชัดเจนมากขึ้น และเพิ่มความสะดวกคล่องตัวในการบริหารจัดการทรัพย์สินของครอบครัว ซึ่งภายหลังการปรับโครงสร้างการถือหุ้น บริษัท ทุนพีรดา จำกัด จะถือหุ้นในORI เพิ่มจาก 4.71% เป็น 25.23% โดยที่ตนเอง “พีระพงศ์ จรูญเอก” ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 28.28% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมด

“การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้นครั้งนี้ เป็นการปรับภายในของครอบครัวจรูญเอก ยืนยันว่า จะไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อโครงสร้างการจัดการ รวมถึงการกำหนดนโยบาย และอำนาจในการบริหารงานของบริษัท โดยจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงกรรมการและผู้บริหารแต่อย่างใด” นายพีระพงศ์ กล่าว

ทั้งนี้ ภายหลังการปรับโครงสร้างการถือหุ้น นายพีระพงศ์ จรูญเอก ยังคงถือหุ้นในสัดส่วน 28.28%, บริษัท ทุนพีรดาจำกัด สัดส่วน 25.23%, นางอารดา จรูญเอก สัดส่วน 6.83% รวมหุ้นซึ่งถือโดยกลุ่มครอบครัวจรูญเอก 60.33%