- เงินเฟ้อต่ำทำความมั่นใจเฟดลดดอกเบี้ยเพิ่ม
- นักลงทุนเก็งราคารอผลประกอบการไตรมาส2
- เทียบต้นปีดัชนีแนสแด็กส์ทำกำไรแล้วกว่า 24%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดวันที่ 12 ก.ค.ปรับตัวขึ้นแรงต่อเนื่อง ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้นแรง 243.95 จุด หรือ +0.90% ปิดที่ระดับ ที่ 27,332.03 จุด ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 สามารถปิดยืนเหนือ 3,000 จุด โดยปิดที่ 3,013.77 จุด เพิ่มขึ้น 13.86 จุด หรือ +0.46% ส่วนดัชนีแนสแด็กส์ คอมโพซิท ปิดเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นกันที่ 8,244.14 จุด เพิ่มขึ้น 48.10 จุด หรือ +0.59%
เทียบกับต้นปีที่ผ่านมา ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดเพิ่มขึ้น 17.17% ดัชนีแนสแด็กส์ คอมโพซิท บวกเพิ่มขึ้น 24.25% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับเพิ่มขึ้น 20.22%
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้งดัชนีดาวโจนส์ และเอสแอนด์พี 500 ยังคงเดินหน้าทำลายสถิติต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยบวกจากความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนนี้ ซึ่งมีแรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่บ่งชี้ว่า อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยในเดือน มิ.ย.เพิ่มขึ้นเพียง 0.1%
ขณะที่บรรดานักลงทุนซื้อขายคึกคัก โดยจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนสหรัฐ ซึ่งจะเริ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า โดยเฉพาะการเปิดเผยกำไรและรายได้ของธนาคารขนาดใหญ่ เช่น เจพีมอร์แกน เชส, ซิตี้ กรุ๊ป, โกลด์แมน แซคส์ และแบงก์ ออฟ อเมริกา
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัทในดัชนีเอสแอนด์พี 500 จะมีผลประกอบการดิ่งลงมากกว่า 2% ในไตรมาส 2 แต่อย่างไรก็ดี หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มของดัชนีเอสแอนด์พี 500 ยังคงปิดบวกวันนี้ โดยหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมนำตลาดปรับตัวขึ้นเกือบ 1.7%
ขณะที่หุ้นอิลลูมินา ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐ ดิ่งลง 16.12% หลังบริษัทปรับลดคาดการณ์รายได้ทั้งปีลงสู่อัตราการขยายตัวที่ 6% และระบุว่า รายได้ในไตรมาส 2 ของบริษัท จะต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาด
หุ้นดอยซ์แบงก์พุ่ง 2.5% หลังธนาคารยูบีเอสของสวิตเซอร์แลนด์ ปรับเพิ่มคำแนะนำลงทุนหุ้นดอยซ์แบงก์จาก “ขาย” เป็น “ลงทุนปานกลาง” โดยระบุว่า แผนปรับโครงสร้างของดอยซ์แบงก์จะได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานด้านกฏระเบียบ ซึ่งจะสร้างภาวะที่สมดุลมากขึ้นสำหรับความเสี่ยงและผลตอบแทน