หุ้นสหรัฐกลับมาไหลลงอีกรอบ พิษโควิด-19 ซัดคนตกงานระนาว ดัชนีดาวโจนส์ไปต่อไม่ไหว

  • อัตราการว่างงานพุ่งสู่ระดับ 4.4% ในเดือนมี.ค. สูงสุดนับตั้งแต่เดือน ส.ค.60
  • นักลงทุนกังวลการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่คนติดเชื้อพุ่งไม่หยุดในสหรัฐฯ
  • แบงก์ชาติจีนอัดเงินลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) อีก 1%

เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น.ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวอยู่ที่ 21,196.04 จุด ปรับลดลง 217.40 จุด หรือ -1.02% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 7,437.44 จุด ลดลง 49.87 จุด หรือ -0.67% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 2,504.20 จุด ลดลง 22.70 จุด หรือ 0.87%

ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปรับลดลงอีกครั้ง ไม่สามารถที่จะยืนในด้านบวกต่อเนื่อง หลังจากที่ปรับขึ้นวานนี้ ทั้งนี้ ตัวเลขด้านแรงงานแสดงผลกระทบที่ชัดเจนมากขึ้น โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรดิ่งลง 701,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ย.2553 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 10,000 ตำแหน่ง

อัตราการว่างงานพุ่งขึ้นสู่ระดับ 4.4% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2560 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.7% หลังจากแตะระดับ 3.5% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี

นักลงทุนยังคงกังวลต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ ซึ่งขณะนี้สหรัฐมีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงเป็นเบอร์ 1 สูงสุดในโลก โดยมีผู้ติดเชื้อ 245,380 ราย ผู้เสียชีวิต 6,095 ราย รวมทั้ง ยังกังวลผลกระทบทางเศรษฐกิจากการที่ภาคธุรกิจได้พากันปิดกิจการ จากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้มีการปลดพนักงานจำนวนมาก รวมทั้งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลกที่รุนแรงมากขึ้น

ขณะที่ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของอิตาลี ฝรั่งเศส และเยอรมัน ร่วงลงแรงเป็นประวัติการณ์ในเดือน มี.ค.เช่นเดียวกับ ดัชนีของยูโรโซนโดยรวมจากผลของการการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ด้านธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ให้กับธนาคารขนาดกลางและขนาดย่อม ลง 1.00% ซึ่งเป็นความพยายามล่าสุดของแบงก์ชาติจีนที่จะให้การสนับสนุนเศรษฐกิจท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยจะดำเนินการเป็นสองระยะ โดยรอบแรกจะปรับลดลง 0.50% มีผลในวันที่ 15 เม.ย. และรอบที่สองลดลงเท่ากันที่ 0.50% มีผลในวันที่ 15 พ.ค.เพื่อส่งเงินกว่า 4 แสนล้านหยวนเข้าระบบ

ซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (7UP) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทวันนี้ มีมติให้ยกเลิกการเข้าลงทุนในบริษัท ซีฮอร์ส เฟอร์รี่ จำกัด ซึ่งทำธุรกิจบริการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) อย่างต่อเนื่องและกระจายในวงกว้างมากขึ้น