- “เทวัญ” รับมอบเงินบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
- เตรียมหารือปรับแนวทางส่งเงินบริจาคให้ถึงมือประชาชนเร็ว
- พร้อมเสนอแนวคิดตั้งศูนย์เฉพาะกิจรวบรวมความช่วยเหลือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.) เวลา 11.30 น. ผู้บริหารหนังสือพิมพ์ซิงเสียนเยอะเป้า เข้าพบ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมร่วมสมทบเงินจำนวน 2 ล้านบาท และชุดกันน้ำ 4,100 ตัว ซึ่งเป็นการรวบรวมของหนังสือพิมพ์จีนอีกหลายฉบับ รวมถึงสมาคมมิตรภาพเยาวชนฉวนโจวโลก ประเทศไทย สมาคมจิ้นเจียงฉวนโจว ประเทศไทย เพื่อร่วมช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือนร้อนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือต่อไป
นายเทวัญ ขอบคุณผู้บริจาคแทนนายกรัฐมนตรี ที่ติดภารกิจลงพื้นที่ให้กำลังใจประชาชนที่ประสบอุทกภัยที่จังหวัดอุบลราชธานี โดยทั้งคนไทยและคนจีน มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมายาวนาน ซึ่งจะนำเงินที่รับบริจาคไปช่วยเหลือประชาชนให้ถึงมือ
ภายหลังรับมอบเงินบริจาค นายเทวัญ เปิดเผย ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือกับที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัย จะมีการปรับวิธีการใช้จ่ายงบประมาณที่ได้รับจากการบริจาคให้ถือมือประชาชนได้เร็วขึ้น และชี้แจงรายละเอียด รายรับ รายจ่าย ให้ประชาชนได้ทราบวันต่อวัน ได้นำเงินไปช่วยเหลือให้กับใครและด้านใดบ้าง ส่วนเงินบริจาคของประชาชน ผ่านบัญชีกองทุนช่วยเหลือของรัฐบาล จะเป็นเงินคนละส่วนกับที่ส่วนราชการจ่ายชดเชย
นายเทวัญ กล่าวด้วยว่า การใช้จ่ายงบประมาณช่วยเหลือผู้ประสบภัยของรัฐบาล มีระเบียบหลักเกณฑ์ในการเบิกจ่ายอยู่ ทำให้ไม่คล่องตัวเหมือนเอกชน และอยู่ระหว่างการพิจารณาความเป็นไปได้ว่าจะสามารถจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นการเฉพาะ เมื่อเกิดเหตุภัยพิบัติได้หรือไม่ โดยศูนย์ดังกล่าวจะเป็นจุดศูนย์กลางในการประสานงานด้านความช่วยเหลือและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบการทำงานของรัฐบาลโดยละเอียด
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ปรับปรุงงานด้านการประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมหรือไม่ นายเทวัญ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีบ่นน้อยใจว่าลงพื้นที่หลายครั้ง แต่ข่าวที่เผยแพร่ไม่ได้รับความสนใจ ซึ่งการทำงานด้านการประชาสัมพันธ์หลังจากนี้ จะประสานความร่วมมือกับโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ขณะที่การอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ เมื่อนวานนี้ (18 ก.ย.) นายเทวัญ ยอมรับว่า พอใจในภาพรวม บรรยากาศเป็นไปด้วยดี พร้อมขอบคุณทุกฝ่ายที่ทำให้การอภิปรายเป็นไปด้วยดี โดยจะนำคำแนะนำของฝ่ายค้านมาปรับปรุงการทำงานของรัฐบาลต่อไป