เนื่องในวันอาสาฬหบูชาวันอังคารที่16 กรกฎาคม2562 เจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายกประทานพระคติธรรมความว่า
“ดิถีเพ็ญเดือนอาสาฬหะได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่งแล้วพุทธบริษัททุกหมู่เหล่าพึงระลึกถึงและกระทำสักการบูชาพระรัตนตรัยเป็นกรณีพิเศษเนื่องด้วยเป็นวันคล้ายวันประกาศพระศาสนาของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธัมมจักกัปวัตนสูตรเป็นพระปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์กระทั่งมีผู้ได้ดวงตาเห็นธรรมขอประทานอุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระบวรพุทธศาสนาจึงบังเกิดพระรัตนตรัยครบองค์3
ธัมมจักกัปปวัตนสูตรมีเนื้อหาแสดงการปฏิเสธส่วนที่สุดโต่งสองทางคือการประกอบตัวให้พัวพันด้วยกามสุขทั้งหลายทางหนึ่งและการฝืนตนให้ได้รับความทุกข์ทรมานอีกทางหนึ่งพร้อมกำหนดแนวทางดำเนินชีวิตโดยทางสายกลางแสดงถึงขั้นตอนและแนวทางในการปฏิบัติเพื่อบรรลุถึงความดับทุกข์คืออริยมรรคมีองค์8
ในอริยอัฏฐังคิกมรรคดังกล่าวนั้นมีข้อปฏิบัติสำคัญเพื่อความพ้นทุกข์ประการหนึ่งซึ่งเราทั้งหลายพึงพินิจพิจารณาให้ถ้วนถี่พร้อมน้อมนำมาเป็นวิถีปฏิบัติประจำชีวิตได้แก่‘สัมมาวาจา’ ที่แปลว่าการเจรจาชอบ
ในสังคมที่มีบุคคลหลายหมู่คณะอยู่ร่วมกันมีผู้คนเจรจาติดต่อกันผ่านอุปกรณ์การสื่อสารอันรวดเร็วและง่ายดายขึ้นนั้นย่อมทำให้‘วจีทุจริต’ หรือการประพฤติชั่วทางวาจาปรากฏขึ้นอย่างกว้างขวางทั้งนี้คำเท็จคำหยาบคำส่อเสียดและคำเพ้อเจ้อเหลวไหลล้วนเป็นต้นเหตุใหญ่ของความวิวาทบาดหมางความขุ่นเคืองและความคลางแคลงใจกัน
เพราะฉะนั้นจึงขอสาธุชนทุกท่านอาศัยดิถีอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษาที่มาบรรจบถึงเป็นโอกาสทบทวนจิตใจและตั้งปณิธานว่าจะดำเนินชีวิตด้วย‘ปิยวาจา’ พูดจาด้วยถ้อยคำที่ไพเราะอ่อนหวานจริงใจไม่พูดหยาบคายก้าวร้าวพูดแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์เหมาะสำหรับกาลเทศะเพื่อความผาสุกร่มเย็นของตนเองครอบครัวชุมชนและสังคมประเทศชาติสืบไป
ขออานุภาพแห่งคุณความดีที่ท่านทั้งหลายร่วมกันบำเพ็ญจงเป็นเครื่องกางกั้นสรรพพิบัติภัยอันอาจก่อให้เกิดความแตกแยกร้าวฉานขอคุณธรรมประจำใจสาธุชนจงดลบันดาลความสมัครสมานสามัคคีให้บังเกิดในบ้านเมืองไทยเพื่อความร่มเย็นสถาพรภายใต้ร่มเงาแห่งพระพุทธศาสนาสืบไปตลอดกาลนานเทอญ.”