สคบ.ลงดาบร้านค้าเอาเปรียบพระสงฆ์

  • สั่งคุมเข้มผู้ผลิตชุดสังฆทาน-ไทยธรรม
  • กำหนดโทษผิดขั้นรุนแรงทั้งจำและปรับ
  • แนะพระ-วัดร้องเรียนกับ สคบ.ดีที่สุด

นายพิฆเนศ ต๊ะปวง รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยภายหลังการเชิญหน่วยงานภาครัฐเช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์ กรุงเทพมหานครและภาคเอกชนผู้ประกอบธุรกิจผลิตและขายชุดสังฆทาน และชุดไทยธรรม เช่น บริษัทดวงธรรม อินเตอร์เนชั่นแนลเทรดดิ้ง จำกัด บริษัท บงกชแก้ว (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท หวั่งเซิ่นหมิง จำกัด เพื่อหารือถึงแนวทางปฏิบัติของผู้ประกอบ การให้สอดคล้องกับกฎหมายของ สคบ. เพราะที่ผ่าน สบค.ได้รับการร้องเรียนโดย ตรงผ่านสื่อโซเชียลมีเดียและทีวี พบว่า สินค้าสังฆทาน และชุดไทยธรรมที่พระสงฆ์ได้รับช่วงเข้าพรรษาทุกๆ ปี ไม่ได้มาตรฐาน และสินค้าบางรายการไม่ได้ระบุวันเดือนปีที่ผลิตและวันหมดอายุ และสำคัญ ผู้ประกอบการบางรายนำสินค้าอุปโภคไปรวมอยู่ในกล่อง หรือภาชนะเดียวกับสินค้าบริโภค เช่น น้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำ น้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก ยารักษาโรคและน้ำดื่ม เป็นต้น

ดังนั้น การหารือในครั้งนี้ เพื่อให้ผู้ผลิตและผู้จำหน่าย ซึ่งเป็นรายใหญ่ได้นำข้อมูลไปส่งต่อให้แก่ร้านค้าเอเย่นต์ ร้านค้าปลีกและรายย่อยได้รับทราบข้อมูล และความรู้ทางกฎหมายเพื่อนำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง เพราะโทษความ ผิดชอบ สคบ.มีความรุนแรงมาก ซึ่งหากผู้ใดขายสินค้าที่ควบคุมฉลากโดยไม่มีฉลาก หรือมีฉลากแต่การแสดงฉลากสินค้าไม่ถูกต้อง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ผลิต ผู้สั่ง หรือนำเข้า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

“ชุดสังฆทานและชุดไทยธรรมที่มีการนำอาหารมาบรรจุใส่ หากไม่มีการแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับชื่อหรือชนิดอาหาร วันเดือนปีที่หมดอายุ หรือควรบริโภคก่อนของอาหารแต่ละรายการต้องมีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาทและหากการตรวจ สอบ การแสดงรายการสินค้า ขนาด น้ำหนักต่อหน่วย ปริมาณการบรรจุและราคาของสินค้าแต่ละรายการที่บรรจุในชุดไทยธรรมหรือชุดสังฆทาน ค่าภาชนะบรรจุ รวมถึงขนาดตัวอักษรและตัวเลข (FONT) ต้องมีขนาด 16 ขึ้นไปหรือเทียบเท่าพบว่าการแสดงตัวอักษรเล็กเกินไป และไม่แสดงรายการสินค้า ขนาด น้ำหนักต่อหน่วย ปริมาณการบรรจุและราคาของสินค้าแต่ละรายการที่บรรจุใน ชุดไทยธรรม หรือชุดสังฆทาน รวมทั้งค่าภาชนะบรรจุ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท”

นายพิฆเนศ กล่าวว่า ผลของการตรวจสอบอย่างเข้มงวดของ สบค.ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้คาดว่า ยังมีผู้กระทำความผิดอยู่ประมาณ 20% ของจำนวนพันกว่าร้านค้าทั่วประเทศ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ของกรุงเทพฯ และปริมลฑณได้รับรายงานการกระทำความผิดน้อยมาก ซึ่งส่วนใหญ่พบกระทำความผิดในพื้นที่ต่างจังหวัดมากที่สุด สำหรับผลการดำเนินคดีกับผู้ประ กอบธุรกิจที่จำหน่ายชุดสังฆทานโดยจัดทำฉลากไม่ถูกต้องในช่วงที่ผ่านมา ส่วน กลางมีจำนวน10 คดี และในส่วนภูมิภาคประมาณ 15 คดี ผู้ประกอบการยินยอมให้เปรียบเทียบปรับตามกฎหมายรายละ 5,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งหมดจำนวน 125,000 บาท

อย่างไรก็ตาม ตนอยากเตือนไปถึงประ ชาชน พระสงฆ์ และทุกหน่วยงาน หากพบการกระทำที่ไม่ถูกต้องเอารัดเอาเปรียบประชาชน สามารถถร้องเรียนมาที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ผ่านช่องทาง สายด่วน สคบ. 1166 ทางเว็บไซต์www.ocpb.go.th หรือร้องเรียนด้วยตนเองที่สคบ. ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ โดยเฉพาะพระสงฆ์ และวัด ซึ่งเป็นผู้รับสินค้าปลายทางหากได้รับชุดสังฆทาน และชุดไทยธรรม ไม่มีคุณภาพหรือไม่ได้มาตราฐาน สามารถร้องเรียนมาที่ สคบ.ได้โดยตรง เพราะผู้ซื้อถวายส่วนใหญ่จะเปิดดูสินค้าภายใน ทำให้ไม่ทราบว่า สินค้าที่ซื้อถวายได้คุณภาพและคุ้มราคาหรือไม่.