“ศักดิ์สยาม” แจงไม่ต้องห่วงจะผีน้อยรึใคร มาจากเมือง “แทกู-คย็องซังเหนือ” เหยียบแผ่นดินไทยปุ๊บโดนกักตัว 14 วัน ในพื้นที่ที่รัฐกำหนดทันที



  • คมนาคม” เตรียมรับมือผีน้อยกลับไทย สั่ง ทอทเข้มมาตรการคัดกรอง สกัด “โควิด-19”  
  • จัดรถตู้รถทัวร์สแตนบายรอส่งกลับภูมิลำเนา
  • พร้อมคุมผู้โดยสารจาก 2 เมือง “แทกูคย็องซังเหนือ” ต้องโดนกักตัว 14 วันในพื้นที่รัฐกำหนด

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมเตรียมมาตรการเร่งด่วนเพื่อรองรับแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า กระทรวงคมนาคมได้นำเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาขั้นตอนการเตรียมการรองรับผู้โดยสารที่เดินทางมาจากสาธารณรัฐเกาหลี โดยผู้โดยสารทุกคน ทุกสัญชาติ ที่เดินทางมาจากเกาหลีจะถูกคัดกรอกอย่างละเอียด ซึ่งบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชนหรือ ทอทได้จัดหลุมจอดแยก  ท่าอากาศยานที่เที่ยวบินมาจากสาธารณรัฐเกาหลี เพื่อให้ผู้โดยสารขาเข้า ผ่านการคัดกรองจากเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ด่านควบคุมโรค ในบริเวณที่จัดไว้สาหรับเป็นพื้นที่คัดกรอง ซึ่ง ทอทได้จัดเครื่อง Thermoscan เพื่อคัดกรองผู้โดยสารจุด คือ บริเวณหน้า Gate, หน้าด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และด่านศุลกากร

ทั้งนี้ กรณีพบผู้โดยสารมีอาการป่วย มีไข้ สธจะดำเนินการต่อผู้ป่วยตามขั้นตอนวิธีปฏิบัติที่ สธกำหนด ในส่วนกรณีผู้โดยสารไม่มีอาการป่วย ไม่มีไข้ กระทรวงคมนาคม โดยกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จะจัดรถส่งผู้โดยสารกลับภูมิลำเนา เมื่อถึงภูมิลำเนา จะมอบหมายให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือผู้นำชุมชน ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย (มท.) และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เฝ้าระวัง อย่างไรก็ตาม ผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางมาจาก 2 เมือง ประกอบด้วย 1.แทกู และ 2.คย็องซังเหนือนั้น จะต้องถูกกักกันให้พักอยู่ในสถานที่ที่รัฐบาลกำหนด เป็นเวลา 14 วัน

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ทอทได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน (EOC) เพื่อประสานงานและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานต่างๆ เช่น ตมด่านควบคุมโรค โดยการใช้ประโยชน์จากระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (APPS) ในการเชื่อมข้อมูลพื้นฐาน และข้อมูลการเดินทางของผู้โดยสาร เพื่อที่จะทำให้ระบบการคัดกรองมีความครบถ้วนและมีประสิทธิภาพ ตลอดจนหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดจากปฏิบัติหน้าในแต่ละวัน สธอาจนำข้อมูลจากระบบ APPS อาทิ ชื่อสกุล สนามบินต้นทาง สนามบินที่แวะเปลี่ยนเครื่อง หมายเลขที่นั่งของผู้โดยสาร หมายเลขโทรศัพท์มือถือ หรืออีเมลที่ติดต่อกับผู้โดยสาร ซึ่งข้อมูลดังกล่าว มีอยู่ในระบบ APPS และระบบ Passenger Name Record (PNR) มาใช้ในการสกัดกั้นการแพร่ระบาด และการติดตามผู้ที่มีความเสี่ยงสูง

นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคม ได้มีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเสนอในที่ประชุมโดยการให้กักตัวผู้ที่จะเดินทางกลับไว้ที่เกาหลี เป็นเวลา 14 วัน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ โควิด-19 ในประเทศไทย แต่ยอมรับว่าในเรื่องนี้ มีความเป็นไปได้ยาก เนื่องจากแรงงานดังกล่าว เป็นแรงงานผิดกฎหมาย ซึ่งเกาหลีต้องการส่งกลับไทยทันที ขณะเดียวกัน เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยแล้วนั้น ในกรณีผู้โดยสารที่ไม่มีอาการป่วยนั้น ขบและ บขสจะจัดรถเพื่อส่งกลับภูมิลำเนาในระยะทางที่ไม่ไกลมากนัก พร้อมทั้งมอบหมายให้จังหวัดลงทะเบียนรายชื่อบุคคลเหล่านั้น เพื่อที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) สามารถติดตามบุคคลดังกล่าวว่า ได้มีการกักกันตนเองภายในที่พัก 14 วันหรือไม่