“ศักดิ์สยาม”ปิ๊ง!ไอเดียรวมงานก่อสร้าง “มอเตอร์เวย์-รถไฟทางคู่”ลดความซ้ำซ้อนการลงทุน-ใช้เงินจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน พร้อมสั่ง สนข.ศึกษษบูรณาการรถไฟ ทางหลวง เดินหน้านโยบายดังกล่าว
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงแนวคิดที่จะพัฒนาระบบทางราง และถนน เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนทางการลงทุน และ การจัดกรรมสิทธิ์ว่า ตามนโยบายมีแนวคิดที่จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรมทางหลวง(ทล.) ,การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)บูรณาการการพัฒนาโครงข่ายทางรถไฟร่วมกับทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง(มอเตอร์เวย์)ร่วมกันในโครงการที่จะมีขึ้นในอนาคต ให้อยู่ในที่เดียวกัน เส้นทางเดียวกันทั้งโครงการรถไฟทางคู่กับ ถนนมอเตอร์เวย์ เพื่อให้เกิดการบูรณาการในการลงทุน ทั้งการกำหนดเส้นทาง การจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน เนื่องจากมองว่าหากมีกำหนดโครงการที่จะพัฒนาศักยภาพการลงทุนควรที่จะให้มีการคิดอย่างรอบคอบที่สุด เพื่อให้เกิดการประหยัดงบประมาณในการลงทุนคราวเดียวกัน
ดังนั้นจึงได้มอบหมายให้ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.)ไปดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ ของโครงการ แนวเส้นทาง ที่จะเกิดการพัฒนา ที่จะเกิดขึ้น ทั้งนี้ในเบื้องต้นเส้นทางที่มีความเป็นได้ในการก่อสร้างทั้งเส้นทางมอเตอร์เวย์ ควบคู่ไปกับเส้นทางรถไฟทางคู่ ประกอบไปด้วย 1.เส้นทาง โคราช-ขอนแก่น ,2.เส้นทาง โคราช-อุบลราชธานี ,3.เส้นทางประจวบ-ชุมพร นอกจากนั้นให้ สนข.ไปสำรวจความเป็นไปได้ในโครงการอื่นๆที่มีความเหมาะสมที่จะดำเนินการในปีงบประมาณต่อๆไปด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินในโครงการของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) โดยเฉพาะในเส้นทางรถไฟทางคู่สายใหม่ จะใช้งบประมาณในการจัดกรรมสิทธิ์สูงมาก เช่น โครงการรถไฟเส้นใหม่ เด่นชัยขเชียงราย-เชียงของ จะใช้วงเงินงบประมาณในการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินจำนวน 20,000 ล้านบาท ส่วนแนวคิดที่จะมีการรวมแนวเส้นทางระหว่างรถไฟทางคู่กับ มอเตอร์เวย์นั้น ในส่วนของรฟท. เห็นว่าโดยเฉพาะในส่วนของฝ่ายวิศวกรรม เห็นว่าสามารถดำเนินการได้ ในเรื่องของงานก่อสร้าง หากเส้นทางรถไฟสายนั้นมีการเดินรถในลักษณะทางตรงเป็นหลัก แต่อาจจะมีปัญหา กรณีมีการก่อสร้างทางเลี้ยว ทางโค้ง เนื่องจากถนนกับทางรถไฟนั้นจะใมช้ระยะโค้งต่างกัน โดยของ รฟท. จะใช้ระยะโค้ง กว่า 1 กิโลเมตรเพื่อความปลอดภัยในการเดินรถ
อย่างไรก็ตามในการก่อสร้างหากพื้นที่ก่อสร้างทางกายภาพมีการผ่านภูเขา การก่อสร้างโครงการร่วมกัน ก็จะสามารถใช้เทคโนโลยีในการเจาะอุโมงค์ เพื่อให้โครงการมีการก่อสร้างร่วมกันได้ในเส้นทางเดียวกัน รวมทั้งปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีในประเทศไทยในการเจาะอุโมงค์ก็มีความก้าวหน้าไปมากไม่น้อยหน้าเทคโนโลยีจากต่างชาติ
