- เลือก1 จังหวัดชายขอบใช้ดิจิทัลวางแผนรายครอบครัว
- เชื่อรายได้ภาคครัวเรือนสูงขึ้นแน่นอน
- ชี้ศูนย์กลางอาเซียนได้เปรียบทุกทางดัน3 ท.ขับเคลื่อนดิจิทัล
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีหลายความเห็นว่าประเทศไทยไม่สามารถเป็นผู้นำอาเซียนได้เนื่องจากเป็นเรื่องไกลตัวและเป็นเพียงแค่ความฝันทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วศักยภาพของประเทศไทยมีทั้งบุคลากรความพร้อมและทำที่ตั้งของประเทศไทยที่อยู่ใจกลางอาเซียนนั้นและไม่ได้เสียเปรียบใครเพียงแต่ไปได้ไม่ถึงไหนเนื่องจากไม่ได้พัฒนาซึ่งก็ต้องยอมรับว่าอุปสรรคสำคัญคือระบบราชการที่ไม่ได้สนับสนุนให้การขับเคลื่อนไปได้อย่างรวดเร็วทำให้เราเดินช้าลงอย่างน่าเสียดาย
“ผมขอเวลา3 เดือนที่จะเอาระบบดิจิทัลช่วยประชาชนในระดับฐานรากในกลุ่มเกษตรกรซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่30 ล้านคนโดยเลือก1 จังหวัดนำร่องที่มีรายได้ต่อครัวเรือนต่ำที่สุดโดยทำงานผ่านทางวิสาหกิจชุมชนนำดิจิทัลไปใช้วางแผนการเพาะปลูกพัฒนาผลผลิตวางแผนการตลาดว่าผลผลิตจะนำไปขายใครช่องทางใดแต่จะไม่อนุญาตให้ภาครัฐเข้าไปทำแอพพลิเคชั่นไปแข่งกับภาคเอกชนเพราะเขาทำได้ดีกว่าเพราะเขามีความพร้อมจากนั้นจะมอนิเตอร์ทุกเดือนจนครบ3 เดือนเชื่อว่ารายได้ภาคครัวเรือนจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนแต่จะมากหรือน้อยเท่านั้น”
นอกจากนี้รมว.ดีอียังกล่าวด้วยว่าไม่เฉพาะกลุ่มเกษตรกรเท่านั้นส่วนของโลจิสติกส์และบิ๊กดาต้าก็จะพัฒนาในขั้นตอนต่อไปเนื่องจากมีความสำคัญเวลานี้ยังติดปัญหาที่หน่วยงานราชการหลายแห่งยังไม่ให้ความร่วมมือและยังหวงข้อมูลโดยคิดเพียงว่าจะทำให้ภารกิจและบทบาทของตัวเองลดลงซึ่งในความจริงแล้วการแชร์ข้อมูลระหว่างหน่วยงานเพื่อการวางแผนร่วมกันนั้นมีความสำคัญมากและผู้ที่จะได้ประโยชน์มี3 กลุ่มหลักคือกลุ่มแรกรัฐบาลที่จะวางแผนการทำงานเพื่อประโยชน์กับประเทศชาติกลุ่มที่2 คือประชาชนจะสามารถวางแผนงบประมาณของตัวเองได้และกลุ่มที่3 กลุ่มผู้ผลิตที่จะสามารถวางแผนการลงทุนได้โดยในระยะแรกนี้จะเลือกใช้บิ๊กดาต้าในกลุ่มท่องเที่ยวที่เป็นกลุ่มที่สร้างรายได้ให้กับประเทศโดยจะเชิญภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวมาหารือร่วมกันมาแชร์ข้อมูลกันเพื่อวางแผนการจัดการข้อมูลทั้งประเทศ
“ผมรู้เรื่องดิจิทัลน้อยกว่าพวกท่านเพราะฉะนั้นผมจึงต้องฟังให้มากเพื่อปิดปมด้อยความไม่รู้ของตัวเองและยิ่งฟังมากผมก็จะยิ่งรู้มากและสามารถนำไปวางแผนการทำงานได้โดยยึดหลักผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน”
นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล( ดีป้า) กล่าวว่า นโยบายของรมว.ดีอีต้องการในการขับเคลื่อนดิจิทัลไทยแลนด์อย่างเร่งด่วนภายใต้กรอบแนวคิด“3 ท” ได้แก่ทันสมัยเท่าทันและทั่วถึง โดยได้เชิญกลุ่มเครือข่ายด้านดิจิทัลและInfluencer รวมกว่า40 หน่วยงานอาทิกลุ่มสมาคมด้านซอฟต์แวร์และไอซีทีกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดิจิทัลคลอบคลุมเทคโนโลยีBlockchain, Artificial Intelligent :AI, Digital Asset: Cryptocurrency เป็นต้นเพื่อมารับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะต่างๆเพื่อนำไปสู่การพัฒนาประเทศไทยสู่ดิจิทัลไทยแลนด์เพื่อนำดิจิทัลช่วยแก้ไขปัญหายกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนควบคู่กับการให้ความรู้และเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างเท่าทันและทั่วถึง
สำหรับการนำเสนอโดยภาพรวมของกลุ่มเครือข่ายดิจิทัลและInfluencer มุ่งเน้นถึงประเด็นปัญหาที่มีอยู่ทั้งในด้านการให้บริการของภาครัฐที่กลายเป็นอุปสรรคซึ่งหากว่าภาครัฐสามารถพัฒนาแนวทางที่จะเชื่อมโยงบริการและง่ายต่อการใช้งานก็จะช่วยแก้ไขปัญหาได้นอกจากนี้ด้านการพัฒนากำลังคนดิจิทัลทั้งการเพิ่มทักษะและเสริมทักษะใหม่รวมถึงการผสานทักษะด้านดิจิทัลเข้ากับความเชี่ยวชาญในแต่ละอาชีพเพื่อสร้างนวัตกรรมในอาชีพของตนเองและเปิดกว้างในด้านแรงงานดิจิทัลทั้งนี้ได้มีการชี้ให้เห็นว่ากำลังคนดิจิทัลของไทยนั้นมีความสามารถไปได้ไกลถึงระดับโลกแต่กลับไม่ถูกผลักดันเท่าที่ควรรวมถึงไม่ได้รับความไว้วางใจแม้แต่กับคนในประเทศเอง