- นายกฯ ได้ฤกษ์กดปุ่มเปิดผ้าแพรคลุมป้าย เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ
- เดินหน้าขยายโครงข่ายรถไฟฟ้า
- มอบความสุขให้ประชาชนได้เดินทางสะดวกสบาย
“นายกรัฐมนตรี”ได้ฤกษ์กดปุ่มเปิดให้บริการโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง – บางแค อย่างเป็นทางการ พร้อมผลักดันเดินหน้าขยายโครงข่ายรถไฟฟ้าเพื่อมอบความสุขให้ประชาชนได้เดินทางสะดวกสบาย
วันนี้ (30 กันยายน 2562) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดให้บริการโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง – บางแค โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมการขนส่งทางราง
นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม รฟม. และ BEM เข้าร่วมในพิธีดังกล่าว ณ สถานีท่าพระ เขบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลได้ให้ความสำคัญและมุ่งมั่นเพื่อแก้ไขปัญหาสภาพการจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลอย่างเร่งด่วน โดยเร่งรัดและผลักดันให้โครงการขนาดใหญ่ต่างๆ ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ซึ่งได้กำหนดให้อยู่ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี ของรัฐบาลในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมและขนส่ง เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางในกรุงเทพฯ และปริมณฑลให้ทั่วถึงกัน เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง – บางแค และช่วงเตาปูน – ท่าพระ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่รัฐบาลให้ความสนใจ เร่งรัด ติดตามความก้าวหน้า เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการเต็มรูปแบบทั้งโครงข่ายได้โดยเร็ว เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรอย่างเร่งด่วน
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ทำพิธีกดปุ่มเพื่อเปิดให้บริการโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง – บางแค อย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งโดยสารรถไฟฟ้าจากสถานีท่าพระไปยังสถานีวัดมังกร ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และทักทายประชาชนที่เดินทางมาร่วมทำบุญในเทศกาลถือศีลกินเจ ประจำปี 2562 ณ วัดมังกรกมลาวาส ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสถานีวัดมังกร
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง – บางแค และช่วงเตาปูน – ท่าพระ เป็นส่วนหนึ่งของแผนแม่บทระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาการจราจร เพื่อยกระดับการเดินทางของประชาชน ซึ่ง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมให้กำกับดูแลในการดำเนินงานโครงการ โดยมีแนวเส้นทางเชื่อมต่อจากรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ไปฝั่งธนบุรี ระยะทางรวมทั้งสิ้น 27 กิโลเมตร โดยแบ่งเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงหัวลำโพง – บางแค เชื่อมจากสถานีหัวลำโพงไปยังสถานีหลักสอง สิ้นสุดที่ถนนกาญจนาภิเษก ระยะทางประมาณ 16 กิโลเมตร มีสถานีใต้ดิน 4 สถานี และสถานียกระดับ 7 สถานี รวม 11 สถานี โดยเส้นทางระหว่างสถานีสนามไชยและสถานีอิสรภาพ เป็นอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาแห่งแรกของประเทศไทย มีระยะทางประมาณ 200 เมตร อยู่ใต้ระดับท้องแม่น้ำเจ้าพระยาประมาณ 10 เมตร
สำหรับช่วงเตาปูน – ท่าพระ จะเชื่อมต่อจากโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรมที่สถานีเตาปูน ไปยังสถานีท่าพระ สิ้นสุดที่บริเวณแยกท่าพระ มีระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร เป็นโครงสร้างทางวิ่งยกระดับตลอดสาย เป็นสถานียกระดับ 8 สถานี มีอาคารจอดรถบริเวณสถานีหลักสอง 2 แห่ง และมีศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า 1 แห่ง ตั้งอยู่บริเวณถนนเพชรเกษมใกล้กับสถานีเพชรเกษม 48 ภายในสถานีมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ลิฟต์ ทางลาดสำหรับคนพิการ บันไดทางขึ้น – ลงสถานี บันไดเลื่อน ห้องจำหน่ายบัตรโดยสารและเครื่องจำหน่ายบัตรโดยสารอัตโนมัติ เป็นต้น เพื่อรองรับการใช้งานของผู้โดยสารทุกประเภท
สำหรับการเปิดเดินรถ โครงรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายนี้ รฟม. และ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) ผู้รับจ้างงานติดตั้งระบบรถไฟฟ้า จัดการเดินรถไฟฟ้า และบริหารการเดินรถ ได้เร่งรัดดำเนินงานติดตั้งระบบรถไฟฟ้าและทดลองการเดินรถเสมือนจริง ช่วงหัวลำโพง – บางแค ก่อนเป็นลำดับแรก เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการแก่ประชาชนได้โดยเร็ว พร้อมทั้งได้จัดเตรียมความพร้อมด้านการให้บริการ โดยเตรียมรถไฟฟ้าเพิ่มอีก 35 ขบวน จากเดิมมี 19 ขบวน ทำให้มีรถไฟฟ้าสำหรับให้บริการในสายสีน้ำเงินตลอดทั้งโครงข่าย 54 ขบวน และจัดเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนที่เพิ่มมากขึ้น
สำหรับอัตราค่าโดยสาร รฟม. และ BEM ได้แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชน โดยยังคงอัตราค่าโดยสารเดิมของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน คือ เริ่มต้นที่ 16 บาท และสูงสุดไม่เกิน 42 บาท กรณีผู้โดยสารเดินทางข้ามระบบจากรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ตั้งแต่สถานีคลองบางไผ่ – สถานีหลักสอง) จะมีค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 16 บาท และสูงสุดไม่เกิน 70 บาท พร้อมทั้งยังคงส่วนลดพิเศษสำหรับเด็ก ผู้สูงอายุ และนักเรียน นักศึกษา เช่นเดิม
ทั้งนี้ การเปิดให้บริการโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง – บางแค ในครั้งนี้ จะทำให้ประชาชนได้รับความสะดวกสบายจากการเดินทางที่ต่อเนื่องตั้งแต่สถานีเตาปูนถึงสถานีหลักสอง โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถไฟฟ้า อันเป็นการยกระดับการเดินทางระหว่างกรุงเทพมหานครและฝั่งธนบุรีที่สะดวก รวดเร็ว ตรงต่อเวลา และปลอดภัย นอกจากนี้ รฟม. และ BEM ยังได้เตรียมพร้อมสำหรับการเปิดให้บริการ ช่วงเตาปูน – สถานีท่าพระ เป็นลำดับต่อไป โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดสอบอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าระบบมีความพร้อมและมีความปลอดภัยสำหรับการเปิดให้บริการแก่ประชาชน คาดว่าจะดำเนินการเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการได้ภายในปี 2562 และมีกำหนดเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม 2563 ซึ่งเมื่อทั้งสองโครงข่ายเปิดให้บริการแล้วจะมีระยะทางทั้งสิ้น 48 กิโลเมตร 38 สถานี มีเส้นทางเชื่อมต่อเป็นวงกลม โดยมีสถานีท่าพระเป็นสถานีร่วม (Interchange Station) เติมเต็มโครงข่ายระบบรถไฟฟ้าและขนส่งผู้โดยสารไปยังรถไฟฟ้าอีก 8 สาย
นอกจากนี้ เส้นทางของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ยังมีจุดที่เชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ ทั้งทางราง ทางบก และทางน้ำในเขตเมือง ช่วยเสริมการเดินทางและบรรเทาปัญหาการจราจรที่ติดขัดในกรุงเทพมหานคร ตลอดจนเป็นการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล