ยกระดับข้าว-ชาวนาไทย ในแบบฉบับ “ข้าวเพลงรัก” สไตล์



“ข้าว” หนึ่งในผลผลิตทางการเกษตรที่คนไทยอย่างเราๆคุ้นเคยกันดี ทานกันทุกวัน ทุกมื้อ เป็นสิ่งที่ทุกบ้านคนไทยต้องมีติดบ้านไว้ 

รวมถึงอาชีพเกษตรกรผู้ปลูกข้าว หรือที่เราจะคุ้นชินเรียกติดปากว่า “ชาวนา” นั้นเอง และเชื่อว่าต้องมีผู้อ่านหลายท่านคุ้นปากคุ้นหูกับคำสำนวนที่ว่า “ชาวนา” เปรียบได้กับ “กระดูกสันหลังของชาติ” เป็นเสมือนอวัยวะสำคัญที่ช่วยหล่อเลี้ยงประเทศ

แต่ในวันนี้ทั้ง “ข้าว” และ “ชาวนา” ทำไมยังประสบปัญหาต่างๆมากมาย ข้าวราคาตกต่ำ โดยข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านแย่งตลาด ราคาข้าวสาร-ข้าวเปลือก ราคาผันผวน ชาวนาเป็นหนี้สินล้นตัว ไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้

แล้วหากมีแนวคิดหรือทฤษฎี ที่จะมาช่วยยกระดับทั้งคุณภาพข้าว ให้มีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นจากเดิม รวมถึงสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้ชาวนา คงเป็นอะไรที่ดีไม่น้อย ซึ่งวันนี้ก็มีผู้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นสิ่งที่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้จริง หากผู้กระทำมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ และเชื่อในสิ่งที่ลงมือทำอยู่ 

“คุณเบนซ์” (เกริกกฤษณ์ กมลวิมุตศานต์) ด้านขวา

My Business My Way สัปดาห์นี้ขอพาไปรู้จัก “คุณเบนซ์” (เกริกกฤษณ์ กมลวิมุตศานต์) เจ้าของผลิตภัณฑ์ “ข้าวเพลงรัก” หรือ MelodyRice หนุ่มผู้พิสูจน์ให้เห็นว่าชาวนาสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ รวมถึงการเพิ่มมูลค่าให้กับข้าว โดยการนำทฤษฎีปลูกข้าวแบบอินทรีย์มาใช้

คุณเบนซ์ เล่าว่า จุดเริ่มต้นที่ตัดสินใจมาเป็นชาวนา เกิดขึ้นเมื่อช่วงปี 2556 โดยตอนนั้นก็มีข่าวอยู่ตลอดว่าข้าวไทยราคาตกต่ำ ซึ่งตนเองก็เกิดความสงสัยว่าทำไมจริงเป็นเช่นนั้น ชาวนาทำไมกำหนดราคาขายข้าวเองไม่ได้ และยังต้องแบกรับหนี้สินมากมาย 

“จากความสงสัยนั้นเองทำให้ผมเกิดแรงบันดาลใจ อยากที่จะพิสูจน์ว่าจะสามารถทำให้ข้าวไทย และชาวนา มีคุณภาพที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ได้หรือไม่ ซึ่งก็ไม่รอช้าเริ่มศึกษาหาข้อมูล ซึ่งก็ยอมรับว่าเป็นอะไรที่ท้าทายมาก เพราะตนเองไม่มีความรู้ด้านการปลูกข้าวเลย เรียนจบด้านการเงินมา รวมถึงธุรกิจที่บ้านก็ทำด้านจำหน่ายเหล็กเส้น ซึ่งก็ไม่เกี่ยวข้องกับด้านการเกษตรแต่อย่างใด”

กระทั่งไปเจอมูลนิธิข้าวขวัญ อยู่ที่จังหวัดสุพรรณบุรี จึงตัดสินใจลงคอร์สเรียนปลูกข้าวอินทรีย์ระยะเวลา 3 วัน ซึ่งหลังจบการเรียนก็ไฟแรงลุยหาที่นาเพื่อลงมือทำจริง โดยไปเช่าที่นา 1 ไร่จากเพื่อนคุณพ่อ ซึ่งปัจจุบันทำนาเอง 11 ไร่ และมีของเครือข่ายที่มีอุดมการณ์เดียวกันรวม 70 ไร่ ในการพัฒนาข้าวอินทรีย์

คุณเบนช์ เล่าว่า จากการได้ความรู้ในการปลูกข้าวอินทรีย์ หัวใจสำคัญหลักมี 3 ข้อคือ 1.เรื่องของพันธุ์ข้าว ซึ่งต้องเป็นพันธุ์ที่ทนต่อโรคต่างๆ ซึ่งในที่นี้เลือกใช้พันธุ์ข้าวหอมปทุมธานี 1 มาปลูก 2.การเตรียมดินเพื่อปลูกข้าวให้มีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับข้าว โดยไม่ใช่ปุ๋ยเคมี 3.โรคและแมลง ที่เป็นภัยทำลายต้นข้าว 

“การทำเกษตรอินทรีย์ หรือที่หลายคนจะคุ้นหูคำว่าออร์แกนิค คือการรักษาระบบนิเวศทางธรรมชาติให้สมดุลกัน ให้ธรรมชาติเขาพึ่งพากันเอง โดยมนุษย์เป็นผู้ช่วยดูแล ซึ่งในส่วนของข้าวเพลงรัก การันตีคุณภาพจากมาตรฐาน ACT-IFOAM, ACT-EU และ COR-NOP ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้”

และในที่สุดจากการทุ่มเทสุดกำลัง คุณเบนซ์ เล่าว่า ก็สำเร็จเป็นผลิตภัณฑ์ข้าวหอมปทุมธานี 1 ทั้งแบบข้าวกล้องและข้าวขาว ซึ่งตอนนี้ต่อยอดเพิ่มทั้งข้าวหอมนิล ข้าว กข43 โดยทำการสีข้าวเอง และบรรจุถุงสูญญากาศขนาด 1 กิโลกรัม ราคาจำหน่าย 100 – 150 บาท (แล้วแต่สายพันธุ์ข้าว) 

นอกจากนี้ยังต่อยอดพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดอื่น ซึ่งได้ทำเป็นในกลุ่มของอาหารทานเล่น “ข้าวกล้องอบกรอบ” รสออริจินัล ราคา 35 บาท โดยในอนาคตก็จะออกรสชาติอื่นๆเพิ่ม รวมถึงพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดต่างๆที่แปรรูปจากข้าวอีก

คุณเบนซ์ เล่าว่า คงมีหลายคนสงสัยแน่ว่าทำไมต้องเป็นข้าวอินทรีย์ที่ใช้แบรนด์ว่า “ข้าวเพลงรัก” เหตุเกิดจากความบังเอิญคือเมื่อครั้งที่ไปทำนา ถอนวัชพืช แล้วได้เปิดเพลงฟังไปด้วยเพื่อสร้างบรรยากาศให้รู้สึกเพลิดเพลินเวลาทำงาน ซึ่งก็ทำให้รู้สึกมีความสุข บวกกับตอนนั้นศึกษาข้อมูลด้านการเกษตรต่างๆแล้วก็ไปพบงานวิจัยเรื่องการเปิดเพลงให้วัวฟังเพื่อทำให้วัวมีเนื้อที่ดี ลายเนื้อสวย เปิดให้ไก่ฟัง ทำให้ไก่ออกไข่ดี 

รวมทั้งได้ศึกษาข้อมูลและไปพบงานวิจัยของของญี่ปุ่น ที่ทดลองเอาน้ำมา 2 แก้ว แก้วหนึ่งพูดแต่คำดีๆใส่ทุกวัน ส่วนอีกแก้วก็จะพูดแต่คำไม่ดีใส่ จากนั้นก็นำไปแช่แข็งแล้วนำมาส่อดูผลึกน้ำพบว่าใบที่พูดแต่คำดีๆใส่มีผลึกที่สวยกว่า ซึ่งก็ทำให้ปิ๊งไอเดียมาเปิดเพลงให้ข้าวฟัง ที่สำคัญก็เลือกเป็นแนวเพลงรักของ “คุณบอย โกสิยพงษ์” เจ้าพ่อเพลงรักมาใช้เปิด ซึ่งนี้จึงเป็นที่มาที่เลือกใช้แบรนด์ “ข้าวเพลงรัก” 

คุณเบนซ์ เล่าว่า ปัจจุบันคุณบอยก็มารวมพัฒนาข้าวอินทรีย์ด้วย เพราะหลังจากได้มีโอกาสไปพบเจอแล้วเล่าทัศนคติของผมให้คุณบอยฟัง คุณบอยก็อนุญาตให้ใช้เพลงได้และพร้อมร่วมผลักดันข้าวไทยด้วย รวมถึงออกผลิตภัณฑ์ข้าวแบรนด์ “ข้าวบอยนภ” ของตนเอง ซึ่งผมกับคุณบอยก็จัดกิจกรรมร่วมกันต่อเนื่อง

งานนี้ใครสนใจก็หาซื้อข้าวเพลงรักมาลิ้มลองกันได้ หาซื้อที่ร้านโดยเฉพาะ สาขาศิริราช และสาขาคลองสาน หรือทางเฟซบุ๊ก : ข้าวเพลงรัก-MelodyRice-ข้าวฟังเพลง