

- ผู้บริโภคแห่ร้องสายด่วน 1569
- โรงพยาบาลเอกชนโขกราคามหาโหด
- เตรียมแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มอีก1ราย
ผู้บริโภคแห่ร้องสายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 จำนวนมาก หลังรักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชน ถูกโขกราคาเกินจริง เบื้องต้น พบ 1 รายคิดราคาสูงเว่อร์ เชิญมาชึ้แจงแล้ว ถ้าเคลียร์ไม่ได้ เตรียมส่งตำรวจดำเนินคดี หลังก่อนหน้านี้ส่งฟ้องแล้ว 1 ราย พร้อมขยายมาตรการกำกับดูแลยา ให้ครอบคลุมคลินิก-โรงพยาลสัตว์
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้ ประชาชนจำนวนมากได้ร้องเรียนเข้ามาที่สายด่วนกรม โทร.1569 เกี่ยวกับการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนแล้วคิดค่ายา และค่ารักษาพยาบาลสูงเกินจริง ซึ่งกรมอยู่ระหว่างการทยอยตรวจสอบข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบแล้วบางส่วน พบว่า มีโรงพยาบาลเอกชน 1 แห่งคิดว่ารักษาเกินจริงตามที่มีการร้องเรียน ขณะนี้ ได้เชิญโรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้มาชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว หากไม่สามารถชี้แจงเหตุผลได้ หรือชี้แจงแล้วไม่สมเหตุสมผล จะแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที ซึ่งจะมีความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการพ.ศ.2542 มาตรา 29 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จากก่อนหน้านี้ กรมได้แจ้งความดำเนินคดีกับโรงพยาบาลเอกชนรายหนึ่งไปแล้ว เพราะคิดค่ายา และค่ารักษาสูงเกินจริง


”ที่ผ่านมา โรงพยาบาลเอกชน ที่คิดค่ายาแพง มักนำเอาค่าใช้จ่ายอื่นๆ ไปรวมเป็นราคายาแล้วขายให้ประชาชน เช่น ค่าเภสัชกร ค่าแอร์ ค่าเก็บสต๊อก ค่าลงทุนต่างๆ แต่ภายหลังจากประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ฉบับที่ 52 ที่กำหนดให้โรงพยาบาลเอกชนต้องแจ้งราคาซื้อ และขาย มาให้กรมภายในวันที่ 12 ก.ค.62 มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.62 ส่งผลให้โรงพยาบาลเอกชนจะคิดราคาแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว ราคายา และเวชภัณฑ์ ต้องมีต้นทุนจากราคาที่ซื้อมาบวกกำไรเท่านั้น ส่วนค่าบริการทางการแพทย์ สามารถคิดราคาแตกต่างกันได้ตามระดับของโรงพยาบาล เช่น ระดับ 5-6 ดาว จะแพงกว่าระดับ 2-3 ดาว”
นายวิชัย กล่าวอีกว่า หลังจากที่กรมได้กำหนดมาตรการกำกับดูแลโรงพยาบาลเอกชนไปแล้ว ต่อไป กรมจะดูแลค่ายา และค่ารักษาพยาบาลของคลีนิคเอกชน และโรงพยาบาลสัตว์ เพราะผู้บริโภคหลายรายได้ร้องเรียนว่าคิดค่ายา และค่ารักษาสูงเช่นกัน อีกทั้งยังไม่ปิดป้ายแสดงราคาให้ผู้บริโภคเห็นชัดเจน โดยเฉพาะสถานรักษาพยาบาลสัตว์ แต่คงต้องรอให้การดูแลค่าษาพยาบาลและค่ายาแพง ของโรงพยาบาลเอกชนเสร็จสิ้นและเป็นรูปธรรมก่อน จากนั้นก็จะพิจารณาคลินิก และโรงพยาบาลรักษาสัตว์ต่อไป