- เผยการลงทุนพัฒนาโครงการยุคนี้ไม่เน้นใหญ่หรือจำนวนโครงการที่เยอะ
- เน้นทำโครงการที่ตอบโจทย์ลูกค้า ขายคล่อง ไม่ต้องแบกรับต้นทุนที่สูง
- ล่าสุดส่ง “เดอะปาล์ม กรุงเทพกรีฑา-วงแหวน” บ้านหรูลงแข่งในตลาด
นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท – แวลู บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้คงเติบโตลดลง 10-12% จากปีก่อน ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้เป็นเช่นนี้ก็มาจากสภาวะเศรษฐกิจภายในที่ชะลอตัว รวมถึงเศรษฐกิจโลกก็ประสบปัญหาเช่นกัน ที่สำคัญในเรื่องปัญหาหนี้ครัวเรือนก็มีผลกระทบต่อภาคอสังหาฯอย่างมาก ซึ่งความต้องการบ้านยังคงมีสูง แต่ความสามารถในการผ่อนชำระต่ำ
ทั้งนี้ในส่วนของบริษัทก็มีการปรับกลยุทธ์ เพื่อรับมือกับสถานการณ์่ต่างๆอยู่ตลอดเวลา โดยเทรนด์การพัฒนาโครงกรจากนี้ก็จะเน้นพัฒนาโครงการที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก เพื่อให้สร้างยอดขายได้เร็ว โดยบริษัทไม่ต้องแบกรับต้นทุนที่สูง ซึ่งในส่วนของบริษัทก็มีที่ดินที่มีขนาดใหญ่ ก็จะใช้วิธีแบ่งพัฒนาโครงการเป็นเฟสๆ ซึ่งที่ดินบ้างทำเลก็อาจมีหลายแบรนด์หลายโครงการรวมกันอยู่ รวมถึงปรับพอร์ตสินค้าให้มีความหลากหลายในสัดส่วนที่เท่าๆกัน เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง
“หัวใจสำคัญของการพัฒนาโครงการให้ประสบความสำเร็จ บริษัทจะเลือกประเภทสินค้า หรือที่พักอาศัยให้เหมาะสมกับทำเลนั้นๆ โดยจะใช้ข้อมูลจากดาต้าที่บริษัทมีว่าทำเลนี้ ลูกค้ามีความต้องการมากน้อยเพียงใด ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนกลุ่มไหน จากนั้นบริษัทถึงจะเริ่มลงทุน พฤกษายุคนี้ไม่ได้แข่งที่การเปิดจำนวนโครงการต่อปีที่เยอะ แต่จะหันมาให้ความสำคัญว่าโครงการนั้นทำไปแล้วต้องเห็นผล ลูกค้ามีความต้องการจริงๆ”
นายปิยะ กล่าวว่า ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวโครงการ “เดอะปาล์ม กรุงเทพกรีฑา-วงแหวน” บ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี่ มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท โดยแบรนด์ “เดอะปาล์ม” อยู่ในเซ็กเมนต์ระดับราคา 10-20 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้เปิดขายโครงการ “เดอะปาล์ม พัฒนาการ 38” ไปแล้ว มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันปิดการขาย 100% แล้ว ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากในการรุกตลาดไฮเอนด์แนวราบ
ทั้งนี้ปัจจุบันพฤกษาเป็นเจ้าตลาดบ้านเดี่ยวในระดับ 3-5 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์เดอะแพลนท์ และระดับราคา 5-10 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ภัสสร ทั้งนี้เพื่อให้พอร์ตสินค้าของบ้านเดี่ยวพฤกษาแข็งแแกร่งขึ้น บริษัทจึงขยายฐานลูกค้าไปยังระดับบน โดยใช้แบรนด์ “เดอะปาล์ม” เป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้บริษัทครองตลาดบ้านเดี่ยวได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ก็ตั้งเป้าติด 1 ใน 3 ของตลาดบ้านเดี่ยวระดับบน
สำหรับจุดเด่นของโครงการเดอะปาล์ม กรุงเทพกรีฑา-วงแหวน คือการเลือกใช้วัสดุตกแต่งระดับเวิลด์คลาส พื้นที่ใช้สอยกว้างขวางโอ่อ่า สะดวกสบาย โดยมีจำนวนยูนิตเพียง 91 ยูนิต อยู่บนทำเลที่เชื่อมต่อเข้าเมืองได้สะดวก ราคาเริ่มต้น 10.5 ล้านบาท หรือมีราคาเฉลี่ยที่ 14 ล้านบาท
“โครงการเดอะปาล์ม กรุงเทพกรีฑา-วงแหวน ถือว่าอยู่โซนกรุงเทพฯฝั่งตะวันออก ที่ตลาดบ้านแนวราบมีการแข่งขันกันสูงมาก โดยปัจจุบันก็มีผู้ประกอบหลายแบรนด์เข้ามาพัฒนาโครงการเป็นจำนวนมาก โดยราคาที่ดิน ณ ปัจจุบัน มีการซื้อขายกันที่ไร่ละ 15 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป้นทำเลที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก”
นายปิยะ กล่าวต่อว่า สำหรับในเรื่องของแบบบ้าน “เดอะปาล์ม กรุงเทพกรีฑา-วงแหวน” มีให้เลือก 3 แบบ คือ แบบ ARECA พื้นที่ใช้สอย 222 ตารางเมตร (ตร.ม.) บนที่ดินเริ่มต้น 66 ตารางวา (ตร.ว.) แบบ LIVISTONA พื้นที่ใช้สอย 253 ตร.ม. บนที่ดินเริ่มต้น 72 ตร.ว. และแบบ LATANIA พื้นที่ใช้สอย 292 ตร.ม.บนที่ดินเริ่มต้น 80 ตร.ว.
นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนจะเปิดโครงการเดอะปาล์ม โครงการใหม่เพิ่มอีก 2 โครงการ คือ เดอะปาล์ม ชัยพฤกษ์ – แจ้งวัฒนะ มูลค่า 1,680 ล้านบาท และเดอะปาล์ม บางนา-วงแหวน มูลค่าโครงการ 1,370 ล้านบาท