- 7 โรงงานไทยรับอานิสงส์ รวมซีพีเอฟ2 โรงงาน
- สมาคมผู้เลี้ยงไก่เพื่อส่งออกชี้อนาคตสดใส
- ช่วง7 เดือนปี62 ส่งออกแล้ว540,000 ตัน
นายคึกฤทธิ์ อารีปกรณ์ ผู้จัดการสมาคมผู้เลี้ยงไก่เพื่อส่งออกไทยเปิดเผยว่าตามที่ประเทศจีนกำลังเผชิญกับสถานการณ์ขาดแคลนเนื้อสุกรส่งผลให้ราคาเนื้อสุกรแพงมากและประชาชนชาวจีนหันมาบริโภคเนื้อไก่ทดแทนทำให้ระดับราคาเนื้อไก่ในประเทศจีนพุ่งสูงขึ้นถึงเท่าตัวจึงนับเป็นโอกาสมหาศาลของอุตสาหกรรมไก่ไทยโดยเฉพาะในกลุ่มโรงงาน7 แห่งที่ผ่านการรับรองไปแล้วก่อนหน้านี้
ทั้งนี้เมื่อปี2561 สำนักงานการขึ้นทะเบียนหรือรับรองแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนหรือCNCA ประกาศขึ้นทะเบียนบริษัทผู้ผลิตและแปรรูปเนื้อไก่ของไทยจำนวน7 แห่งเท่านั้นที่สามารถส่งเนื้อไก่และผลพลอยได้แช่แข็งไปจีนได้ประกอบด้วยบริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหารจำกัด(มหาชน) หรือซีพีเอฟ จำนวน2 โรงงานและสหฟาร์มโกลเด้นท์ไลน์ไทยฟู้ดและF&F Food จึงทำให้ทั้ง7 โรงงานนี้ได้รับอานิสงส์ราคาดังกล่าวทันทีในขณะนี้
“ราคาไก่ระดับนี้ไม่เคยปรากฏที่ไหนในโลกเช่นตีนไก่จากตันละ2,000 ดอลล่าร์สหรัฐเพิ่มเป็น4,200 ดอลล่าร์สหรัฐหรือปีกกลางไก่จากตันละ3,000 ดอลล่าร์สหรัฐเพิ่มเป็น5,200 ดอลล่าร์สหรัฐ จึงถือเป็นโอกาสอันดีมากของผู้ผลิตเนื้อไก่ทั้ง7 โรงงาน”
ล่าสุดประเทศจีนต้องการบริโภคเนื้อไก่จำนวนมหาศาลส่งผลให้เจ้าหน้าที่กรมความปลอดภัยด้านอาหารนำเข้าส่งออกสำนักงานการศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน(GACC) ต้องออกตรวจประเมินความปลอดภัยของเนื้อไก่จากหลายประเทศผู้ผลิตไก่โดยไทยเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมายซึ่งคณะจากจีนเพิ่งเข้ามาสุ่มตรวจ10 โรงงานไก่-เป็ดของไทยจากทั้งหมด22 โรงคาดว่าจะแจ้งผลประเมินออกมาได้ในเร็วๆนี้หากจีนประกาศรับรองโรงงานไทยมากขึ้นก็จะสามารถส่งออกเนื้อไก่ไปจีนได้เพิ่มขึ้นตามจำนวนโรงงานที่ได้รับการรับรอง
นอกจากนี้ยังมีอีกปัจจัยบวกที่สำคัญคือประเทศจีนไม่มีการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าไก่จากไทยและชิลีเพียง2 ประเทศขณะที่ไทยได้เปรียบในแง่ระยะทางที่อยู่ใกล้จีนมากกว่าทำให้อุตสาหกรรมไก่ของไทยมีความสดใสมากนับตั้งแต่นี้ไปจนกว่าจีนจะสามารถคลี่คลายปัญหาขาดแคลนเนื้อหมูของตนได้
สำหรับภาพรวมการส่งออกเนื้อไก่ของไทยในช่วง7 เดือนแรกของปี 2562 เป็นปริมาณ540,000 ตันเพิ่มขึ้น9.8 % เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่ประเทศจีนนำเข้าเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์ไก่จากไทยใน7 เดือนแรกของปีนี้รวม33,500 ตันเพิ่มขึ้นประมาณ712 % ส่งผลให้จีนกลายเป็นตลาดส่งออกเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์ไก่จากไทยเป็นปริมาณสูงเป็นอันดับ3 รองจากยุโรปและญี่ปุ่น ทั้งนี้คาดว่าปริมาณการส่งออกเนื้อไก่ของไทยตลอดทั้งปี2562 น่าจะเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้900,000 ตันรวมถึงมูลค่าการส่งออกที่น่าจะสูงเกินกว่าเป้าเช่นกัน
“เรามีความได้เปรียบกับประเทศคู่แข่งหลายด้านทั้งในแง่มาตรฐานการผลิตที่อยู่ในระดับสากลมีความปลอดภัยสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดกระบวนการผลิตที่สำคัญด้วยระยะทางที่ใกล้กันจึงส่งผลดีต่อการส่งออกซึ่งจะทำให้ยอดการส่งออกเนื้อไก่ไปจีนจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดและต่อเนื่องทั้งยังส่งผลให้ระดับราคาเนื้อไก่ในประเทศแข็งตัวด้วย”