- ยอดสมัครสูงกว่า 70,000 ร้านค้า เกินเป้าที่กระทรวงการคลังกำหนด
- พร้อมแนะนำประชาชนที่จะลงทะเบียนใช้สิทธิวันที่ 23 ก.ย.62 นี้
- ลงทะเบียนได้ต่อเนื่องทุกวันจนกว่าจะครบ 10 ล้านคน
นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงการคลังได้มีมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ “ชิมช้อปใช้” ซึ่งได้เปิดรับสมัครผู้ประกอบการร้านค้า เข้าร่วมมาตรการฯ ตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค. 62 และได้ปิดรับสมัครในวันที่ 20 ก.ย.62 ซึ่งพบว่ามีร้านค้าให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมมาตรการจำนวนมาก โดยสรุปยอดผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมมาตรการทั่วประเทศ ขณะนี้มีจำนวนกว่า 70,000 ร้านค้า ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยแบ่งเป็นร้านประเภทชิม จำนวนกว่า 30,000 ร้านค้า ประเภทช้อป จำนวนกว่า 30,000 ร้านค้า และประเภทใช้ จำนวนกว่า 3,000 ร้านค้า และเมื่อรวมกับร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่มี App ถุงเงินเดิมอยู่แล้วกว่า 50,000 ร้านค้า ซึ่ง ธนาคารกรุงไทยได้อัพเดท App ถุงเงินเวอร์ชั่นใหม่ให้อัตโนมัติ และร้านค้าประชารัฐที่ติดตั้งเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอกนิกส์(EDC) อีกกว่า 30,000 ร้านค้า จะมีร้านค้าที่เข้ามาตรการฯ ทั่วประเทศ จำนวนกว่า 150,000 ร้านค้า
สำหรับตอนนี้ใกล้ถึงวันที่เปิดให้ลงทะเบียนรับเงิน 1,000 บาท ตาม “มาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยว ชิม ช้อป ใช้” ของรัฐบาลแล้ว โดยประชาชนที่สนใจสามารถลงทะเบียนใช้สิทธิตามมาตรการฯ ผ่านเว็บไซต์ www.ชิมช้อปใช้.com ระหว่างวันที่ 23 ก.ย.- 15 พ.ย.62 โดยรับลงทะเบียน 1 ล้านคน/วัน ต่อเนื่องทุกวันจนกว่าจะครบ 10 ล้านคน และขอเน้นย้ำในเรื่องของเงื่อนไขและวิธีการรับสิทธิอีกครั้งเพื่อให้ประชาชนที่สนใจได้เตรียมตัวลงทะเบียน ดังนี้1. เป็นบุคคลสัญชาติไทย มีบัตรประจำตัวประชาชน มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน มีโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนที่สามารถเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ต และมี e-mail ของตัวเอง2. ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.ชิมช้อปใช้.com ด้วยเบอร์โทรศัพท์และหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน และต้องเลือก 1 จังหวัดที่จะเดินทางไปท่องเที่ยว โดยเป็นจังหวัดใดก็ได้ที่ไม่ซ้ำกับที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน
3. ผู้ที่ลงทะเบียนได้แล้ว รอรับ SMS หรือ e-mail ผลการลงทะเบียนรับสิทธิภายใน 3 วันทำการ 4. จากนั้น ดาวน์โหลด App เป๋าตัง เพื่อใช้สิทธิ์ผ่าน G-Wallet โดยไม่จำเป็นต้องมีบัญชีธนาคารกรุงไทยและเมื่อลงทะเบียนสำเร็จก็จะได้รับเงิน 1,000 บาท (G-Wallet 1) โดยไม่ได้รับเป็นเงินสด แต่เป็นจำนวนเงินที่จะสามารถใช้จ่ายผ่าน App เท่านั้น โดยเมื่อได้รับสิทธิแล้วจะต้องเดินทางไปเที่ยวในจังหวัดที่ลงทะเบียนไว้ ภายใน 14 วันหลังได้รับ SMS (หากเกินเวลาเงินจะถูกดึงกลับ) และหากมีการเริ่มใช้สิทธิแล้วจะสามารถใช้วงเงิน 1,000 บาทต่อไปได้จนถึงวันที่ 30 พ.ย.625. นอกจากการรับเงิน 1,000 บาท (G-Wallet 1) แล้ว ผู้ที่ลงทะเบียนยังสามารถรับเงินคืน (Cash Back) ได้อีกด้วย โดยหากมีการเติมเงินส่วนตัวเพื่อใช้จ่ายผ่าน App เพิ่มเติม (G-Wallet 2) รัฐบาลจะชดเชยเงินคืนให้เป็นจำนวนเท่ากับ 15% ของยอดชำระเงินที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 4,500 บาทต่อคน เช่น หากใช้จ่ายเพิ่ม 1,000 บาท จะได้รับเงินคืน 150 บาท หากใช้จ่ายเพิ่ม 1,500 บาท จะได้รับเงินคืน 225 บาท หากใช้จ่ายเพิ่ม 30,000 บาท จะได้รับเงินคืน 4,500 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินคืนที่สูงที่สุดที่จะได้รับ
“ประชาชนที่จะลงทะเบียนใช้สิทธิสามารถเข้าไปตรวจสอบและค้นหาตำแหน่งพิกัดของสถานประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมมาตรฯ ที่ได้ปักหมุดไว้ทั่วประเทศเพื่อช่วยในการตัดสินใจได้ทาง App เป๋าตัง และ เว็บไซต์www.ktb.co.thทั้งนี้ กรมบัญชีกลางและสำนักงานคลังจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ ได้เตรียมความพร้อม ให้คำแนะนำ ช่วยเหลือแก่ประชาชนที่มีปัญหาและข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลการลงทะเบียนประชาชน หรือการรับสิทธิ์ App เป๋าตัง โดยสามารถติดต่อสอบถามและขอคำแนะนำได้ด้วยตนเองในวันเวลาราชการ หรือติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ call center กรมบัญชีกลาง02-270-6400กด 7 “