“ประวิตร”ลงพื้นที่บ้านวังถั่วขอนแก่นกำชับ “ดีอีเอส” ต่อยอดพัฒนา ใช้ประโยชน์เน็ตประชารัฐ



  • “บิ๊กป้อม” ย้ำเน็ตประชารัฐ​ เป็นเครื่องมือขยายโอกาสให้ประชาชน
  • ปัจจุบันมีการลงทะเบียนใช้ไวไฟฟรีเฉียด7 ล้านบาท
  • โชว์ขายเครื่องปั้นดินเผาสร้างรายได้เดือนละ2แสนบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 7 กันยายน2562 ที่ผ่านมา พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดติดตั้งโครงการเน็ตประชารัฐบ้านวังถั่วหมู่ที่5 ตำบลวังชัย อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น โดยมีนาวาอากาศสมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส)​ นายมนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) ตลอดจน หัวหน้าส่วนราชการและประชาชนในพื้นที่ ให้การต้อนรับ

โดยพล.อ.ประวิตร    กล่าวว่า    โครงการเน็ตประชารัฐเป็นโครงการที่สำคัญโครงการหนึ่งของรัฐบาลซึ่งโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องดำเนินการให้ครอบคลุมและทั่วถึงเพื่อรองรับการพัฒนาด้านดิจิทัลที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วโดยอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงเป็นสิ่งที่รัฐบาลตั้งใจใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการขยายโอกาสให้แก่ประชาชนไม่ว่าจะเป็นโอกาสในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและบริการภาครัฐการเข้าถึงตลาดเพิ่มรายได้อย่างเท่าเทียมรวมถึงบริการด้านสาธารณสุขและโอกาสทางการศึกษาเพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้จากเนื้อหาสาระต่างๆในอินเตอร์เน็ต 

“รัฐบาลจึงอยากเห็นประโยชน์ที่พี่น้องประชาชนได้รับจากโครงการเน็ตประชารัฐซึ่งบ้านวังถั่วเป็นหมู่บ้านที่ประสบความสำเร็จในการเปิดหน้าร้านออนไลน์ขายเครื่องปั้นดินเผาสร้างรายได้จำนวนมากโดยได้ฝากให้กระทรวงดิจิทัลฯสนับสนุนความรู้และกิจกรรมต่างๆเพื่อให้ชาวน้ำพองได้ใช้เน็ตประชารัฐให้เกิดประโยชน์สูงสุด”

ด้านน.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันโครงการเน็ตประชารัฐมีผู้ลงทะเบียนใช้งานอินเตอร์เน็ตไร้สาย(ไวไฟ: WiFi) แล้วจำนวน6,840,688 คนกระทรวงดีอีเอสได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆบูรณาการในการสร้างการรับรู้เน็ตประชารัฐแก่ประชาชนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำของประชาชนในหมู่บ้านโดยเน็ตประชารัฐได้เข้ามาติดตั้งในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นทั้งหมด1,158 จุดโดยอยู่ในอำเภอน้ำพองจำนวน 71 จุดซึ่งหมู่บ้านวังถั่วเป็นหนึ่งในหมู่บ้านของอำเภอน้ำพองมีผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาเป็นสินค้าเด่นของชุมชนโดยผลิตจากดินสีดำซึ่งเป็นดินลักษณะเฉพาะที่มีแห่งเดียวที่หมู่บ้านวังถั่ว

ทั้งนี้จากการเข้ามาของโครงการเน็ตประชารัฐทำให้ชาวบ้านได้รับการแนะนำการเรียนรู้ที่ได้นำเทคโนโลยีสื่อสารมาใช้ประโยชน์ในการขายของออนไลน์ สามารถสร้างรายได้จากเครื่องปั้นดินเผาจากเดือนละ90,000 บาทเป็น200,000 บาทนอกจากนี้ยังได้ใช้เน็ตประชารัฐเพื่อการเรียนรู้ที่แตกต่างกันในทุกระดับอายุตั้งแต่เยาวชนผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ

สำหรับปี2562 นี้กระทรวงดีอีเอส  ได้เดินหน้าต่อยอดเพื่อพัฒนาการใช้ประโยชน์โดยมีโครงการที่จะพัฒนาแอปพลิเคชั่นเครือข่ายเน็ตอาสาประชารัฐและแอปพลิเคชั่นLife 360 ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นที่มีรูปแบบ(ฟังก์ชั่น) การใช้งานสำหรับชีวิตประจำวันของประชาชนรวมถึงการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับธุรกิจขนาดเล็กเพื่อรองรับเศรษฐกิจของชุมชนเพื่อให้ประชาชนได้มีความรู้และนำเทคโนโลยีไปใช้งานจริงในการชีวิตประจำวันทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนและชุมชนมีความตื่นตัวที่จะเรียนรู้ในการประยุกต์ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์เต็มศักยภาพซึ่งจะสร้างความเข้มแข็งความยั่งยืนให้ชุมชนเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศต่อไป