- หวั่นรายใหญ่เอาเปรียบรายเล็กจนธุรกิจเสียหาย
- เข้าข่ายมีความผิดตามกฎหมายแข่งขันทางการค้า
- มีโทษหนักปรับไม่เกิน10%ของยอดขายในปีทำผิด
นายสกนธ์ วรัญญูวัฒนา ประธานกรรมการแข่งขันทางการค้า เปิดเผยว่า คณะกรรมการแข่งขันทางการค้า ได้แต่งตั้งคณะทำงาน เพื่อติดตามพฤติกรรมผู้ประกอบการในหลายธุรกิจ ที่ผู้บริโภคนิยมใช้บริการมาก ทั้งธุรกิจบริการจองห้องพักผ่านออนไลน์, ขายสินผ่านเว็บไซต์ขายสินค้าชั้นนำ, ธุรกิจการให้บริการรถแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชั่น รวมถึงธุรกิจโรงพยาบาล เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดพฤติกรรมที่ขัดต่อพ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้าพ.ศ.2560 ที่เป็นการเอาเปรียบทางธุรกิจ หรือแข่งขันอย่างไม่เสรี และเป็นธรรม ส่งผลให้ผู้ประกอบธุรกิจรายอื่นเสียหาย
สำหรับธุรกิจจองห้องพักออนไลน์ และขายสินค้าออนไลน์ ได้เชิญผู้บริหารเว็บไซต์ และแพลตฟอร์มหลายรายมาสอบถามข้อเท็จจริง เพราะได้รับการร้องเรียนจากเจ้าของสินค้า และโรงแรม รีสอร์ท รวมถึงคณะกรรมการฯ พบเองว่า เจ้าของเว็บไซต์ และแพลตฟอร์มต่างๆ บังคับให้เจ้าของสินค้าลดราคาสินค้า และห้องพักเพื่อทำโปรโมชั่น ซึ่งอาจผิดกฎหมายแข่งขันทางการค้า
”ได้สอบถามข้อเท็จจริงว่ามีเงื่อนไขให้นำสินค้า และห้องพักมาขายในเว็บอย่างไร บังคับใหลดราคา เพื่อทำโปรโมชั่นจริงหรือไม่ มีการผูกขาด จำกัดการแข่งขัน หรือจำกัดการเข้าสู่ธุรกิจของรายใหม่หรือไม่ เป็นต้น ถ้าพบว่า มีพฤติกรรมที่ขัดกับกฎหมายแข่งขันทางการค้าพ.ศ.2560 จะถูกดำเนินการตามกฎหมาย”
ส่วนธุรกิจให้บริการรถแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชั่นนั้น พบว่า ผู้ให้บริการ 2 รายใหญ่ ได้ควบรวมธุรกิจกันในประเทศเพื่อนบ้านของไทย โดยไม่แจ้งให้หน่วยงานกำกับดูแลทราบ อีกทั้งยังได้ปรับขึ้นราคาให้บริการ และจะใช้ราคาเดียวกันทั่วโลก ซึ่งคณะทำงานกำลังพิจารณาว่า พฤติกรรมดังกล่าว ส่งผลกระทบกับธุรกิจให้บริการแท็กซี่ในไทยหรือไม่ อย่างไร ขณะที่ธุรกิจโรงพยาบาลนั้น คณะทำงาน อยู่ระหว่างศึกษาวิเคราะห์โครงสร้างโรงพยาบาลทั่วประเทศ โดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชน เพื่อจะได้รู้ถึงพฤติกรรมการว่ามีการแข่งขันเสรี และเป็นธรรมหรือไม่ หากพบว่า มีพฤติกรรมขัดกับกฎหมายแข่งขัน จะต้องชำระค่าปรับทางปกครองไม่เกิน 10% ของรายได้ในปีที่กระทำผิด
นายสกนธ์ กล่าวต่อว่า ยังได้ตั้งคณะทำงานจัดทำไกด์ไลน์ หรือแนวทางปฏิบัติที่เป็นธรรมในการทำธุรกิจแฟรนไชส์ และธุรกิจอื่นๆ เช่น โทรคมนาคม การเงิน ประกัน พลังงาน ฯลฯ และไกด์ไลน์ควบรวมธุรกิจ หลังบังคับใช้ไกด์ไลน์ธุรกิจค้าปลีกไปแล้วเมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อเป็นแนวปฏิบัติให้ผู้ประกอบธุรกิจ แข่งขันอย่างเสรี และเป็นธรรมมากขึ้น