“ธรรมนัส”ลุยใช้”โมเดล ตลาดคลองเตย”ปราบมาเฟีย อ.ต.ก.



  • ย้ำต้องเป็นตลาดของเกษตรกรอย่างแท้จริง
  • ตรวจยึดแผงคืนจากนอมินีทันที
  • สั่งตั้งอ.ต.ก.77จังหวัด จำหน่ายสินค้าเกษตรทั่วประเทศ

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยในระหว่างการตรวจเยี่ยมองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.) ว่า ในฐานะที่มีประสบการณ์การทำตลาดมาหลายแห่ง จึงจะนำโมเดลกวาดล้างมาเฟียตลาดคลองเตย มาใช้กับตลาดขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.) เพื่อให้ตลาดอ.ต.ก.สามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์เป็นตลาดเพื่อเกษตรกรอย่างแท้จริง เพราะชื่อก็บอกแล้วว่าเพื่อเกษตรกร ดังนั้น ไม่ว่ารัฐบาลชุดไหนมาบริการ ต้องตอบโจทย์นี้ให้ได้ก่อน ช่วยเหลือด้านการตลาดสินค้าเกษตร การเจรจา การจำหน่าย และการเก็บรักษาสินค้าเกษตรหรือผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ดังนั้น ผู้ค้าจริงต้องเป็นผู้ถือสัญญากับอ.ต.ก. โดยตรง ไม่ใช้ตัวแทนถือสัญญา (นอมินี) โดยสั่งการให้ อ.ต.ก.ทำการตรวจสอบ หากพบว่าแผงค้าใดใช้นอมินี จะยึดแผงคืนทันที เพราะความจริงควรมี 1 คนต่อ 1 แผง

“ในเรื่องของการบริหารตลาดผมเป็นเจ้าของตลาดสดที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ผมเคยเป็นผู้บริหารตลาดสี่มุมเมือง ตลาดไท ถึงมาทำตลาดคลองเตย ผมรู้ว่าจะบริหารอย่างไร ผมเคยจัดการกับมาเฟียตลาดคลองเตย ที่มีแผงค้ากว่า 10,000 แผง สามารถกวาดล้างมาเฟียได้ภายใน 6 เดือน ส่วนอ.ต.ก.มีร้านค้าเพียง 608 แผง จึงคาดว่าจะทำได้รวดเร็วกว่า และได้ให้ อ.ต.ก.ทำการขึ้นทะเบียนผู้ค้าใหม่รอไว้ หากมีการตรวจพบแผงที่ทำผิด หรือใช้นอมินี จะได้นำแผงที่ยึดคืนไปให้กับผู้ที่ขึ้นทะเบียนมาเป็นผู้ขายสินค้าในตลาดอ.ต.ก.รายใหม่ต่อไป”

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อว่า จากนี้ไปจะปรับบทบาทของ อ.ต.ก.ให้เป็นผู้ดำเนินการตามนโยบายการตลาดนำการผลิต โดยจะให้มีตลาด อ.ต.ก.ครบทั้ง 77จังหวัด เพื่อเป็นตลาดรองรับสินค้าของเกษตรกรให้ได้มากที่สุด รวมทั้งทำหน้าที่ติดต่อตลาดในต่างประเทศเพื่อทำการส่งออก ดังนั้น อ.ต.ก.จะเป็นผู้ที่กำหนดหรือไปบอกกับเกษตรกร ว่าให้ปลูกพืชเกษตรชนิดใดที่ตลาดต้องการ เพราะหากรัฐบาลยังเดินหน้าประกันรายได้เกษตรกร คงไม่ทำให้ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวดีขึ้น แบบยั่งยืน เพราะตลาดสินค้าเกษตร หรือตลาดสินค้าต่างๆมีพ่อค้าคนกลาง ดังนั้น จากนี้ต่อไป อ.ต.ก.จะต้องเป็นตัวกำหนดทิศทางและอนาคตของเกษตรกร ให้มีการกินดีอยู่ดี โดยไม่ต้องไปหวังพึ่งแต่กระทรวงพาณิชย์ ที่โดย อ.ต.ก.ต้องนำการตลาดให้เกษตรกรเอง ภายใต้เป้าหมายที่มีมูลค่าการค้าขายสินค้าเกษตรมากกว่า 20,000 ล้านบาท/ปี ในปี 2564 และสินค้าที่ออกจากตลาด อ.ต.ก.ต้องเป็นสินค้าเกรดเอ เป็นสินค้าที่ไม่เหมือนกับสินค้าในตลาดทั่วๆไป เป็นสินค้าที่ทำให้พี่น้องเกษตรกรมีมูลค่าสูงขึ้น รวมถึงสินค้าเกษตรอินทรีย์ เกษตรชีวภาพ เกษตรแปรรูป ไปสู่เกษตรอุตสาหกรรมและส่งเสริมคุณภาพสินค้าให้ได้มาตรฐาน และอ.ต.ก.ต้องปรับตัวเองในการทำการค้าแบบออนไลน์ด้วย

สำหรับกรมพัฒนาที่ดิน และสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.)ก็ได้สั่งการให้ร่วมมือกันอย่างเป็นระบบ โดยกรมพัฒนาที่ดิน ซึ่งมีหมอดินจะทำการผลิตปุ๋ยสั่งตัดเพื่อลดต้นทุนให้กับเกษตรกร โดยมี อ.ต.ก.เป็นช่องทางขายให้เกษตรกรทั่วประเทศ โดยเฉพาะเกษตรกรที่อยู่ในที่ดิน ส.ป.ก.นำไปใช้ได้อย่างเหมาะสมกับพื้นที่ ไม่มัวไปใช้ปุ๋ยสูตรสำเร็จรูปจากโรงงานซึ่งไม่เหมาะกับที่ดินต้องการ ส่วนกรมการฝนหลวง ได้บอกไปแล้วว่า ตนไม่สนหลักการเพราะไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ ตนสนใจแต่ “หลักกู” ฉะนั้น ตนเดินทางไปจังหวัดไหนฝนต้องตก เพื่อให้เกษตรกรทำการเกษตรได้ผลผลิตดี

นายกมลวิศว์ แก้วแฝก ผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) กล่าวว่า จากการสำรวจพบว่าผู้ค้าในตลาดอ.ต.ก.มีจำนวนมากที่มีแผงค้าในตลาดที่เป็นกิจการค้าเดียวกัน แต่มีแผงมากกว่า 20 แผง ถือว่า ผิดสัญญาในการเป็นผู้ค้ากับอ.ต.ก. เพราะตามสัญญาอ.ต.ก. กำหนดให้ ผู้ค้ามีแผงได้เพียงไม่เกิน 3 แผง/ราย และไม่สามารถนำแผงไปเช่าช่วง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการเดินสำรวจตลาด อ.ต.ก.ของร.อ.ธรรมนัส ได้มีบรรดาผู้ค้ามาต้อนรับและร้องเรียนเรื่องของที่จอดรถในตลาด อ.ต.ก.ที่มีไม่เพียงพอจนทำให้บรรดาลูกค้าหายไปและยอดขายลดลงจากปกติด้วย