- มั่นใจปีนี้รายได้โตตามเป้า10%
- ยอมรับไตรมาส2 รายได้อาจต่ำสุดของปี
- เหตุตั้งสำรองรายจ่ายพนักงานตามกฎหมายแรงงานใหม่
นายแพทย์ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ รองประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG เปิดเผยว่าถึงผลกระทบจากการออกมาตรการให้ราคายาและเวชภัณฑ์และบริการทางการแพทย์ เป็นสินค้าควบคุมที่ต้องประกาศราคานั้นยอมรับว่า ส่งผลกระทบต่อกลุ่มบริษัทแต่เพียงเล็กน้อย เนื่องจากปัจจุบันราคายาและค่าบริการของโรงพยาบาลในกลุ่มอยู่ในระดับปานกลาง ขณะที่พ.ร.บ.แรงงานฉบับใหม่ที่ออกมานั้น คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 2 เนื่องจากบริษัทต้องตั้งสำรองค่าใช้จ่ายพนักงานตามกฎหมายแรงงานฉบับใหม่เงินทั้งสิ้น 80 ล้านบาท ขณะที่ตั้งเป้ารายได้ปี62 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10%
“บริษัทยังตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจโรงพยาบาลไตรมาส 2 และ ทั้งปี 62 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% แม้ภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 2 รายได้จะต่ำที่สุดของปี เนื่องจากมีการตั้งสำรองเงินจากพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานใหม่”
นายแพทย์ธนาธิปกล่าวต่อว่า ภาพรวมรายได้ปี 2562จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งเป็นผลจากธุรกิจโรงพยาบาลในประเทศที่ให้บริการในปัจจุบัน และจากโรงพยาบาลแห่งใหม่ที่เปิดไปแล้ว รวมถึงที่จะเตรียมเปิดให้บริการด้วย ส่วนการดำเนินงานของโรงพยาบาลในต่างประเทศ ทั้ง Ar Yu International Hospital ในเมียนมา และ Welly Hospital ในจีนนั้น คาดว่าจะเติบโตดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายมี EBITDA (กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย) จะถึงจุดคุ้มทุนในสิ้นปีนี้ หรือ ต้นปี 63
ส่วนโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ รังสิต ซึ่งเป็นโครงการที่พักอาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต แบบคนสูงวัยรุ่นใหม่ มั่นใจว่าปีนี้จะมียอดโอนกรรมสิทธิ์ได้ตามเป้าที่วางไว้ 200 ยูนิตจากปัจจุบันมียอดโอนแล้ว 65 ยูนิต และมียอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์ (backlog) อีก 85 ยูนิต โดยในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ บริษัทเตรียมเปิดให้บริการสถาบันจิณณ์เวลเนว ดูแลสุขภาพองค์รวม และโรงพยาบาลธนบุรีบูรณา ซึ่งตั้งอยู่ในโครงการนี้ด้วย
ทั้งนี้ ปัจจุบัน บริษัทมีโรงพยาบาลที่เปิดบริการในประเทศแล้ว 6 แห่ง ประกอบด้วย ธนบุรี , ธนบุรี 2 , ธนบุรี บำรุงเมือง , โรงพยาบาลราษฎร์ยินดี สงขลา ,โรงพยาบาลอุบลรักษ์ ธนบุรี อุบลราชธานี และโรงพยาบาลสิริเวช จันทบุรี ซึ่งมีเตียงให้บริการรวมกว่า 1,100 เตียง
