

- นักลงทุนชะลอรอผลการประชุมเฟดคืนนี้
- รอถ้อยแถลงแนวทางลดดอกเบี้ยในครึ่งปีหลัง
- ตามติดเจรจาการค้า “ทรัมป์-สี จิ้นผิง”
ดัชนีดาวโจนส์ขยับขึ้นเล็กน้อยในช่วงเปิดตลาด ของวันที่ 19 มิ.ย.ตามเวลาสหรัฐ รอการประกาศผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 22.20 ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 0.16% อยู่ที่ 26,570.26. จุด บวก 41.66 จุด ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 0.02% อยู่ที่ 2,918.29 จุดบวก 0.55 จุด ส่วนดัชนีแนสแด็ก อยู่ที่ 7,955.81 จุดเพิ่มขึ้น 1.56 จุด หรือเพิ่มขึ้น 0.02%
โดยนักลงทุนยังคงรอเฟด ว่าจะส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในรูปแบบใดหลังจาการประชุมครั้งนี้
ทั้งนี้ตลาดการเงินได้เพิ่มการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่อ่อนแอของสหรัฐ ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายราย ซึ่งรวมถึงนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ก็ได้ส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินครั้งนี้
โดย FedWatch ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์อัตราดอกเบี้ยสหรัฐของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งก่อนสิ้นปีนี้ โดยมีโอกาส 79% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนก.ค. และมีโอกาส 90% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. และมีโอกาส 97% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธ.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการพบปะกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นอกรอบการประชุมสุดยอดของกลุ่ม G20 ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 28-29 มิ.ย. โดยหวังว่าการพบปะกันดังกล่าวจะช่วยคลี่คลายความขัดแย้งทางการค้าระหว่างประเทศทั้งสอง
ซึ่งนักลงทุนยังมีมุมมองสองด้าน ทั้งการคาดการณ์ในแง่ดีว่า การเจรจาจะเป็นไปในทิศทางที่ดี และมีการชะลอหรือลดความเข้มข้นของมาตรการกีดกันทางการค้าลง และมองในทิศทางที่ว่า ในที่สุด แม้จะมีการเจรจา แต่จะไม่สามารถมีข้อตกลงร่วมกันได้