- นักลงทุนกลับมากังวลเศรษฐกิจสหรัฐฯถดถอย
- ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯลด
- สับสนข้อมูล เจรจาการค้าจีน-มะกันรอบใหม้ส่อแววขัดแย้ง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตลาดวันที่ 27ส.ค.ปรับตัวลง 124.66 จุดหรือ -0.48% ปิดที่ 25,774.17 จุด ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 9.53 จุดหรือ -0.33% ปิดที่ 2,868.85 จุด ส่วนดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปรับตัวลงลง 26.79 จุดหรือ -0.34% ปิดที่ 7,826.95 จุด
หุ้นกลุ่มธนาคารต่างปรับตัวลง ตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เกิดความผันผวนรุนแรง โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปี ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 2.00% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค.
ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี อยู่สูงกว่าพันธบัตรอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงแนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
หุ้นเจพีมอร์แกน เชส ร่วงลง 1.1% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ร่วงลง 1.7% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดิ่งลง 1.16% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ลดลง 0.8% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ลดลง 0.9% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ปรับตัวลง 0.5% ทั้งนี้ ความกังวลต่อเศรษฐกิจถดถอยดังกล่าว ยังทำให้หุ้นอุปโภคบริโภคลดลงด้วย
ขณะที่บรรยากาศการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ เกิดความไม่เข้าใจกันอีกครั้งทำให้นักลงทุนลดการซื้อหุ้นอีกครั้ง
โดยนายเกิง ชวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ออกมายืนยันเป็นครั้งที่ 2 ว่า เขาไม่ได้รับทราบข่าวที่ว่า มีเจ้าหน้าที่จีนได้โทรศัพท์ 2 ครั้งมายังเจ้าหน้าที่สหรัฐเพื่อเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายกลับมาเจรจาการค้า ตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวอ้าง
“ขณะที่เป็นที่น่าเสียใจที่สหรัฐยังคงเพิ่มการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน สิ่งนี้จะส่งผลกระทบต่อทั้งสองฝ่าย และไม่สร้างสรรค์” นายเกิง กล่าว
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวในที่ประชุมกลุ่มประเทศชั้นนำของโลก7ประเทศ หรือจี7 ว่า ตนเชื่อว่าจีนมีความจริงใจ และมีความต้องการอย่างมากที่จะทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ
“ผมไม่แน่ใจว่าจีนมีทางเลือกอื่น นอกจากทำข้อตกลงกับสหรัฐ ไม่ว่าพวกเขาต้องการหรือไม่ก็ตาม ผมไม่ได้พูดเช่นนี้เพื่อข่มขู่จีน” ทรัมป์ กล่าว