- จับตาการกระบวนการถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์
- ขณะหลักฐานใช้อำนาจแทรกแซงการเลือกตั้งปี63ชัดขึ้น
- ตัวเลขการขยายตัวเศรษฐกิจสหรัฐฯยังมีทิศทางชะลอ
บรรยากาศการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐฯเป็นไปอย่างซบเซาดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 26 ก.ย.ที่ 26,891.12 จุด ลดลง 79.59 จุด หรือ -0.30% ดัชนี เอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,977.62 จุด ลดลง 7.25 จุด หรือ -0.24% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิท ปิดที่ 8,030.66 จุด ลดลง 46.72 จุด หรือ -0.58%
นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในสหรัฐ ซึ่งกระบสรการถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์กำลังดำเนินอยู่ โดยคณะกรรมาธิการข่าวกรองประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้เผยแพร่รายงานใหม่ของผู้แจ้งเบาะแสรายหนึ่งที่ได้กล่าวโทษประธานาธิบดีทรัมป์ กรณีติดต่อรัฐบาลต่างชาติเพื่อให้แทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐ
รายงานฉบับนี้ได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการที่ปธน.ทรัมป์ได้โทรศัพท์หานายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ ได้กดดันให้นายเซเลนสกีทำการสอบสวนนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ และบุตรชายของเขา ซึ่งมีการทำธุรกิจในยูเครน เพื่อสกัดนายไบเดนออกจากการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 3 ของตัวเลข GDP ประจำไตรมาส 2/2562 ที่ระดับ 2.0% ซึ่งชะลอตัวลงจากไตรมาส 1 ที่มีการขยายตัว 3.1% และ 2.6% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้
รวมทั้งตัวเลขการว่างงาน กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 3,000 ราย สู่ระดับ 213,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 212,000 ราย
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นเชฟรอน ดิ่งลง 2.7% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 0.5% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ลดลง 0.7% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ลดลง 0.9%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและผู้ผลิตชิพร่วงลง โดยหุ้นเฟซบุ๊ก ดิ่งลง 1.5% หุ้นอเมซอนดอทคอม ร่วงลง 1.6% หุ้นอินเทล ลดลง 0.2% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ลดง 0.5% หุ้น Nvidia ลดลง 0.5% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ลดลง 0.3%
ขณะที่มีแรงซื้อหุ้น defensive stocks เช่นหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มสินค้าผู้บริโภคซึ่งเป็นหุ้นที่ปลอดภัยและสามารถต้านทานวัฏจักรทางเศรษฐกิจได้ดี
หุ้นบียอนด์ มีท ผู้ผลิตเนื้อวัวรายใหญ่ของสหรัฐ ทะยานขึ้น 11.58% หลังจากแมคโดนัลด์เปิดเผยว่า จะเริ่มทดลองนำผลิตภัณฑ์เนื้อวัวของบียอนด์ มีท มาทำแฮมเบอร์เกอร์ในร้าน 28แห่งในแคนาดา