- นักลงทุนคาดมีโอกาสลดความรุนแรงสงครามการค้า
- ขณะที่ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนสูงขึ้นกว่าที่คาด
- หุ้นอุตสาหกรรม-เทคโนโลยี-แบงก์ขึ้นนำตลาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดคืนวันที่ 5 ก.ย.ที่ 26,728.15 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 372.68 จุด หรือ +1.41% ขณะที่ดัชนี แนสแด็ก คอมโพวิส ปิดที่ 8,116.83 จุด เพิ่มขึ้น 139.95 จุด หรือ +1.75% ด้านดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,976.00 จุด เพิ่มขึ้น 38.22 จุด หรือ +1.30%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กกลับมาคึกคัก โดยดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นตั้งแต่เปิดตาด ผลจากคำแถลงของระทรวงพาณิชย์จีน ซึ่งระบุว่า นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันเกี่ยวกับการจัดการเจรจาการค้ารอบต่อไปที่กรุงวอชิงตันในช่วงต้นเดือนต.ค. พร้อมระบุว่า กลางเดือนนี้เจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนจะปรึกษาหารือกันเพื่อเตรียมการประชุมดังกล่าว
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 195,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 140,000 ตำแหน่ง
ขณะที่ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐดีดตัวแตะระดับ 56.4 ในเดือนส.ค. จากระดับ 53.7 ในเดือนก.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีภาคบริการเดือนส.ค.จะอยู่ที่ระดับ 54.0 ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐพุ่งขึ้น 1.4% ในเดือนก.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.0%
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้นรขานรับสัญญาณบวกเกี่ยวกับการเจรจาการค้าและข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐ ฯ เช่นเดียวกับหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีและผู้ผลิตชิพที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นตามทิศทางอัตราผลตอนแทนพันธบัตรสหรัฐเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 2.6% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 2.26% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก พุ่งขึ้น 2.4% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส เพิ่มขึ้น 2.28% หุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้น 3.2% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดีดขึ้น 2.9%