- ราคาน้ำมันดิบพุ่งหลังจากเเหตุโจมตีโรงงานน้ำมันในซาอุฯ
- นักลงทุนกังวลอาจกระทบการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
- จับตาเฟดลดดอกเบี้ยอีก0.25%ประชุมสัปดาห์นี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์วันที 16 ก.ย.ปิดที่ 27,076.82 จุด ลดลง 142.70 จุด หรือ -0.52% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 8,153.54 จุด ลดลง 23.17 จุด หรือ -0.28% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,997.96 จุด ลดลง 9.43 จุด หรือ -0.31%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนลบเมื่อคืนนี้ หลังจากเกิดเหตุการณ์โจมตีโรงงานน้ำมันสองแห่งในเขตอับกาอิก (Abqaiq) และคูราอิส (Khurais) ถูกโจมตีด้วยโดรนจนเป็นเหตุให้เกิดเพลิงลุกไหม้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยโรงงานทั้งสองแห่งเป็นของบริษัทซาอุดี อารามโค ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย
เหตุการณ์โจมตีโรงงานน้ำมันในครั้งนี้ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ทะยานขึ้นเกือบ 15% เมื่อคืนนี้ ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และอาจนำไปสู่การตอบโต้กันในตะวันออกกลาง โดยรายงานล่าสุดระบุว่า สหรัฐได้ออกมาเรียกร้องให้นานาชาติรวมตัวกันเพื่อตอบโตอิหร่าน เพราะเชื่อว่า อิหร่านอยู่เบื้องหลังการโจมตีโรงงานน้ำมันในครั้งนี้
หุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มผู้ประกอบการเดินเรือร่วงลงเนื่องจากความกังวลที่ว่า การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันอาจจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการดำเนินงาน นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันยังได้ฉุดหุ้นกลุ่มผู้ผลิตวัสดุและกลุ่มสินค้าผู้บริโภคร่วงลงเช่นกัน
หุ้นเจเนอรัล มอเตอร์ส (GM) ร่วงลง 4.25% หลังจากพนักงานในสังกัดสหภาพแรงงานประกาศผละงานประท้วง อันเนื่องมาจากการเจรจาเรื่องค่าจ้างและสวัสดิการของแรงงานกับฝ่ายบริหารของบริษัท ประสบความล้มเหลว
หุ้นบริษัทผลิตอาวุธรายใหญ่ของสหรัฐพุ่งขึ้น หลังจากเจพีมอร์แกนได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ “overweight” โดยหุ้นนอร์ทธอร์ป กรัมแมน หุ้นล็อคฮีด มาร์ติน และหุ้นเรย์ธีออน คอร์ป ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 2%
ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ โดยหุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 2.2% หุ้นเอ็กซอน โมบิล เพิ่มขึ้น 1.5% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ทะยานขึ้น 6.1% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 10.9% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 16.06% หุ้นอาปาเช คอร์ป ทะยานขึ้น 16.9%
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 17-18 ก.ย.นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้