“ณัฐวุฒิ”เสนอแก้ไข พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

  • ยื่นเรื่องแล้ว ป.ป.ช.ไม่รับพิจารณา ให้ผู้เสียหายมีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลฎีกา
  • ถ้าอัยการสูงสุดเห็นว่าคดีไม่มีมูล ผู้เสียหายสามารถยื่นฟ้องคดีได้โดยตรง

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทยและผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความรำลึกเหตุการณ์สลายการชุมนุมของประชาชนปี 2553 พร้อมระบุว่าจากการหารือฝ่ายกฎหมาย และทีมนโยบายของพรรคเพื่อไทย ได้พบแนวทางที่น่าจะกระชับเวลา ตรงเป้า และถือเอาเป็นหลักประกันไม่ให้ผู้มีอำนาจ ใช้กำลังปราบปรามประชาชน ด้วยใจลำพอง ลอยนวลพ้นผิดโดยง่ายได้อีก ด้วยการแก้ไข พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ( พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยมีสาระสำคัญคือ

1.หากยื่นเรื่องแล้ว ป.ป.ช.ไม่รับพิจารณา ให้ผู้เสียหายมีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบได้โดยตรงแล้วแต่กรณี

2.กรณี ป.ป.ช.ไต่สวนแล้วมีมติว่าคดีไม่มีมูลให้ส่งสำนวนพร้อมความเห็นให้อัยการสูงสุดพิจารณาหากอัยการสูงสุดเห็นว่าคดีมีมูลความผิดอาญาให้ยื่นฟัองคดีได้ แต่ถ้าอัยการสูงสุดเห็นว่าคดีไม่มีมูล ผู้เสียหายสามารถยื่นฟ้องคดีได้โดยตรง

“ผมเตรียมประสานงาน ส.ส.ที่จะเข้าชื่อเสนอกฎหมายไว้แล้ว 30 รายชื่อ จะเสนอต่อรัฐบาลใหม่ให้เสนอร่างโดย ครม.ประกบด้วย และขอพลัง ส.ส.ในสภาเสนอเป็นญัตติด่วน ให้เป็นกฎหมายอีก 1 ฉบับ ในแผนงาน 100 วันแรกของรัฐบาล”

หากสำเร็จตามนี้ ญาติผู้เสียชีวิต น่าจะเริ่มต้นฟ้องคดี ได้ภายใน 6 เดือน หลังรัฐบาลเริ่มต้นใช้อำนาจบริหาร

ผมนำร่างฉบับที่เตรียมไว้ ลงในคอมเมนต์ด้วย เพื่อผู้รู้ท่านใดมีข้อสังเกต หรือเสนอแนะที่คมชัดรัดกุมกว่า จะนำมาปรับปรุงบรรจุลงในร่างแก้ไขในทันที