

หากจัดอันดับประเทศเสี่ยงตายแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ประเทศไทยน่าจะจัดอยู่อันดับต้นๆของโลก วันดีคืนดีขับรถอยู่ดีๆก็มีเหล็กจากรถพ่วงหล่นมาทับ เดินอยู่ข้างทางดีๆก็ร่วงลงไปในท่อระบายน้ำระดับความลึก 3 เมตร เด็กนักเรียนอยู่ในโรงเรียนซึ่งน่าจะเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดแล้ว อยู่ดีๆก็มีเครนฟาดลงมาทับ บาดเจ็บกันระนาว บางคนถึงขั้นสมองร้าว ก็ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆหายเร็วๆ
สิ่งเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้น ถ้าแค่รู้จักคำว่า “ความรับผิดชอบ” ประเทศไทยมีกฎหมายยุ่บยั่บไปหมด แต่กฎหมายกลับเป็นอุปสรรคสำหรับคนที่ต้องการทำให้ถูกกฎหมาย แต่คนที่ไม่ใส่ใจจะทำให้ถูกต้อง จ้องแต่จะจ่ายใต้โต๊ะกลับอยู่กันอย่างสบายแบบไร้ความรับผิดชอบ
ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าใครเคยมีประสบการณ์จะต่อเติมบ้านแล้วไปขออนุมัติแบบก่อสร้างจากทางเขตจะรู้ดีว่าเป็นที่ปวดเศียรเวียนเกล้ามาก สุดท้ายถ้าจบที่จ่ายเงินแบบไม่ต้องมีใบเสร็จ ความสะดวกแบบเดลิเวอรี่จะส่งมาถึงบ้านท่านในทันที ที่เสียเวลามาเนิ่นนาน แก้แบบแล้วแก้อีกยังไงก็ไม่ผ่าน จะผ่านแบบที่แทบไม่ต้องดูแบบ ทุกวันนี้ก็ยังเป็นกันอยู่
จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเหตุร้ายจึงเกิดซ้ำแล้วซ้ำอีกกับผู้บริสุทธิ์ ถ้าเจ้าหน้าที่เข้มงวดกับมาตรฐานการก่อสร้าง เอาใจใส่ดูแลอย่างสม่ำเสมอ ให้ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล เชื่อแน่ว่าความสูญเสียจะลดน้อยลงไปมาก แต่ทุกวันนี้ยังเกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก สะท้อนมาตรฐานแบบไทยๆที่อาศัยไหว้เจ้าที่ให้คุ้มครองไม่ให้เกิดเหตุร้ายกับจ่ายเงินค่าน้ำร้อนน้ำชาให้งานสะดวก แต่ไม่เคยทำตามมาตรฐานความปลอดภัยอย่างที่ควรปฏิบัติ
จะต้องให้เกิดการสูญเสียไปอีกเท่าไหร่ เพียงเพื่อแลกกับผลประโยชน์บังตาของคนบางคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลแต่ไม่ทำหน้าที่ของตนเองอย่างตรงไปตรงมา
พอเกิดเหตุก็มาอ้างว่า ให้หยุดก่อสร้างไปตั้งแต่เดือนนั้นเดือนนี้ นี่คือจุดที่เจ้าหน้าที่ใช้ปกป้องความผิดของตัวเอง ถามว่าเครนก่อสร้างมันเล็กจิ๋วขนาดเท่ามดใช่ไหมจึงไม่เห็นว่ากำลังใช้ทำงานอยู่ ทำต่อเนื่องมาไม่ใช่แค่วันสองวัน ทำกันมา 2-3 เดือนแล้วจะมาบอกว่าไม่รู้ ไม่เห็น แอบลักลอบก่อสร้าง บอกเลยว่ายังไงก็ฟังไม่ขึ้น
เจ้าหน้าที่พวกนี้เข้าข่ายมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เต็มๆ กี่งานมาแล้วที่ชาวบ้านต้องผจญความเสี่ยง เห็นเครนยกของหนักสูงๆก็คิดกันว่า เจ้าหน้าที่คงอนุมัติตามเกณฑ์ตามมาตรฐานกันมาแล้ว คงมีความปลอดภัย แต่หารู้ไม่ว่าเจ้าหน้าที่รับผลประโยชน์ แต่ให้ชาวบ้านรับความเสี่ยงกันเต็มๆ
นี่คือความชั่วร้ายของระบบ ที่ไม่เคยได้รับการแก้ไขกันอย่างจริงจัง ทั้งๆที่เกิดเหตุกันมานับครั้งไม่ถ้วน เรื่องเครนก่อสร้างเป็นตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ยังมีเรื่องถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ ฝาท่อที่ชำรุด สายไฟที่ร่วงหล่น ผู้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ บาดเจ็บล้มตายกันมานับไม่ถ้วน ขับรถมอเตอร์ไซค์ตกหลุมล้มคว่ำเสียชีวิตที่เดิมๆซ้ำๆ ก็ถูกปล่อยปละละเลยไม่เคยแก้ไข รอรายใหม่มาตายทับที่เดิม
ทำงานกันแบบนี้น่าเสียดายเงินภาษีที่จ่ายกันไปทุกเดือน มีเงินเดือนประจำเลี้ยงดูยังไม่พอใจ กลับใช้ช่องโหว่ของกฎหมายมาหาประโยชน์ ทั้งๆที่ผลจากการกระทำก่อให้เกิดโทษกลับไปสู่ประชาชนคนเสียภาษี คนโบราณเรียกกันว่า “กินบนเรือนขี้รดบนหลังคา”
จัดไปดูงานต่างประเทศเสียงบประมาณกันก็มาก แต่ประเทศไทยเคยมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปทางที่ดีขึ้นบ้าง มาตรฐานแบบไทยๆก็ยังคงอยู่คู่สังคมไทยเสมอมา อนิจจา…ประเทศไทย
คนชายขอบ
ขอบคุณภาพประกอบจากwww.Pixabay.com