- คลัง มึน ยังไม่ได้รับนโยบาย “ชิมช้อปใช้” เฟส2
- ยันระบบกรุงไทยไม่ได้ล่มตามข่าว
- คนซื้อของร้านค้าชุมชนถึง 73%
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เรื่องการขยายระยะเวลามาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ “ชิมช้อปใช้” และเตรียมเปิดรับสมัครระยะที่ 2 หรือ เฟส 2 พร้อมกับเพิ่มจำนวนผู้ลงทะเบียนในดครงการชิมช้อปใช้นั้น ขณะนี้สศค.ยังไม่ได้รับมอบนโยบายใดๆ จากฝ่ายบริหาร ดังนั้นจึงยังยึดเป้าหมายเดิมคือจำนวน 10 ล้านรายก่อน และอยากจะประเมินผลโครงการในระยะแรกให้เสร็จเรียบร้อยก่อนจะเริ่มพิจารณาเดินหน้าเฟส 2
อย่างไรก็ตามในช่วง 8 วันแรกของการลงทะเบียนชิมช้อปใช้ ตั้งแต่วันที่ 23ก.ย.-30ก.ย.62 มีผู้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เต็มตามโควตา 1 ล้านรายทุกวัน โดยในจำนวนนี้มีผู้ลงทะเบียนไม่สำเร็จตามเงื่อนไขประมาณ 200,000 รายต่อวัน เนื่องจากข้อมูลไม่ตรงกับฐานข้อมูลของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย กรอกข้อมูลผิดพลาด เช่น คำนำหน้า เป็นต้น ทั้งนี้ผู้ที่ลงทะเบียนจะได้รับข้อความ SMS หรือ E-mail ตอบกลับในเวลา 3 วันทำการ ว่าได้รับสิทธิ์หรือไม่ ซึ่งถ้าหากไม่ได้รับสิทธิ์ก็สามารถลงทะเบียนในวันถัดไปได้เลย
ส่วนผู้ที่ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย.- 26 ก.ย. 2562 จำนวนทั้งหมด 4 ล้านราย ปัจจุบันมีผู้ได้รับข้อความ SMS ยืนยันสิทธิ์แล้ว 3.11 ล้านราย เริ่มมีผู้ไปใช้สิทธิ์ในกระเป๋าเงินในแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง”ช่องที่ 1 จำนวนเงิน 1,000 บาท และกระเป๋าเงินช่องที่ 2 ซึ่งให้ประชาชนเติมเงินเข้ามาและจะได้รับเงินคืน 15% ของยอดใช้จ่ายรวมแล้ว ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.- 29 ก.ย. 2562 จำนวน 370,523 ราย มียอดการใช้จ่ายทั้งสิ้น 294 ล้านบาท
ทั้งนี้ แบ่งเป็น ใช้จ่ายผ่านร้านค้าในชุมชน 215 ล้านบาท หรือคิดเป็น 73% ของยอดใช้จ่ายทั้งหมด อาทิ ร้านค้ากลุ่มโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (โอทอป) ร้านวิสาหกิจชุมชน เป็นต้น ส่วนประมาณ 79 ล้านบาท หรือ 27% เป็นยอดใช้จ่ายในร้านสะดวกซื้อและห้างสรรพสินค้าโมเดิร์นเทรด
“ขอยืนยันว่าระบบการชำระเงินระหว่างแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” และ “เป๋าตัง”ของธนาคารกรุงไทยไม่ได้ล่มอย่างที่เป็นข่าว ส่วนกรณีข่าวร้านค้าสะดวกซื้อขนาดใหญ่ มีคนทิ้งรถเข็นที่มีสินค้าไว้เต็มร้านเนื่องจากไม่สามารถชำระเงินได้นั้น ถือเป็นความรับผิดชอบของร้านค้าที่จะต้องบริหารจัดการให้ดีเอง โดยหากต้องการจะยุบสาขาให้น้อยลง เพื่อเพิ่มเครื่องรับชำระเงินในช่องทางจ่ายเงินก็สามารถทำได้ เพราะตามเงื่อนไขการลงทะเบียน ร้านค้าขนาดใหญ่ มีเครื่องรับชำระเงินได้ 20 จุด ซึ่งจะเลือกลงสาขาใดกี่เครื่องก็ได้ เพียงแต่ต้องอยู่ภายในจังหวัดเดียวกันเท่านั้น ส่วนร้านค้าใดต้องการจะถอนตัวออกจากโครงการก็สามารถแจ้งเข้ามาที่ธนาคารกรุงไทยได้เช่นกัน”
ส่วนกรณีร้านค้ามีปัญหาไม่ได้รับเงินผ่านแอปถุงเงินหลังจากรับชำระเงินนั้น ขอชี้แจงว่า รัฐบาลจะโอนเข้าแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ช่องที่ 1 เข้าบัญชีของร้านค้าไม่เกินเวลา 21.00 น. ของวันทำการถัดไป ส่วนช่อง 2 ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ประชาชนเติมเอง ร้านค้าจะได้รับการโอนเงินเข้าบัญชีของร้านค้าในวันถัดไปไม่เกินเวลา 6.30 น. ของทุกวัน จึงไม่ต้องกังวลหากเงินไม่เข้าในทันที
ส่วนในวันที่ 30 ก.ย.2562 ซึ่งถือเป็นวันที่ 8 ของการลงทะเบียนชิมช้อปใช้ ตั้งแต่เปิดให้ลงทะเบียนหลังเที่ยงคืน มีผู้ลงทะเบียนครบ 1 ล้านราย เวลา 03.06 น. ซึ่งช้ากว่าวันที่ผ่านมาเล็กน้อยซึ่งครบล้านราย ในเวลา 02.54 น. แต่คนก็ยังมีความสนใจลงทะเบียนจำนวนมากอยู่ อย่างไรก็ตามประชาชนทั่วไปสามารถลงทะเบียนได้ถึง 15 พ.ย.2562 หรือจนกว่าจะครบ 10 ล้านราย