คมนาคมเร่งสกัดควันดำจ่อขึ้นภาษีรถ



  • “ศักดิ์สยาม”เดินหน้ามาตรการเร่งด่วนลดฝุ่น PM2.5
  • สั่งการให้ข้าราชการคมนาคมเลี่ยงใช้รถยนต์ส่วนตัว
  • ตรวจเข้มรถสาธารณะ-ลดภาษีรถไฟฟ้า-จัดเก็บภาษีรถก่อมลพิษ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงมาตรการลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5ว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมดำเนินมาตรการลดฝุ่นละอองเป็นการเร่งด่วน ใน3เรื่อง คือ รถ งานก่อสร้าง และการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ โดยในส่วนของรถนั้นให้กรมการขนส่งทางบก(ขบ.) ตรวจสอบสภาพ และควันดำของรถโดยสารสาธารณะอย่างเข้มงวดมากขึ้นจากเดิมที่ดำเนินการอยู่แล้ว หากพบว่ารถคันใดไม่ผ่านหลักเกณฑ์การตรวจสภาพต้องสั่งห้ามวิ่งให้บริการเด็ดขาดจนกว่าจะมีการปรับปรุงแก้ไขให้ผ่านมาตรฐานแล้วจึงนำกลับมาให้บริการได้

ทั้งนี้ได้ให้หน่วยงานก่อสร้างเจ้าของโครงการ เช่น กรมทางหลวง (ทล.) และกรมทางหลวงชนบท(ทช.)ประสานงานกับผู้รับเหมาให้จัดสเปย์น้ำในพื้นที่ก่อสร้างทุกโครงการ เพื่อลดปริมาณฝุ่นละออง ส่วนการใช้ระบบขนส่งสาธารณะนั้นมีนโยบายให้ข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงคมนาคมที่จำเป็นต้องเดินทางจากต่างจังหวัดเข้ามาในกรุงเทพมหานครให้หลีกเลี่ยงการใช้รถยนต์ส่วนตัวยกเว้นมีความจำเป็นจริงๆและให้หันมาใช้บริการขนส่งสาธารณะแทน เช่น รถไฟ รถทัวร์ เป็นต้น

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ส่วนมาตรการระยะกลางและระยาวนั้นอยู่ระหว่างดำเนินการเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะ ทั้ง ล้อ-ราง-เรือ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนหันมาใช้บริการมากขึ้น นอกจากนี้ยังจะหาแนวทางนำมาตรการด้านภาษีมาใช้กับรถที่ก่อมลพิษ อย่างรถควันดำไม่ผ่านมาตรฐาน ก็จำต้องเสียภาษีมากกว่ารถที่ไม่ก่อมลพิษ ขณะเดียวกันก็จะลดภาษี หรือลดหย่อยค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนให้กับรถที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น รถยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงคมนาคมว่า มาตรการแก้ไขปัญหามลภาวะฝุ่นละออง PM2.5 ของกระทรวงคมนาคมนั้นในส่วนของกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) จะทำการตรวจสอบสภาพรถและดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยจะตรวจวัดควันดำรถบรรทุกและรถโดยสารบนถนนสายหลักและสายรองในกทม.และปริมณฑล เดือนละไม่น้อยกว่า 16 วัน พร้อมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก บก.จร. กทม.กรมควบคุมมลพิษ และผู้ประกอบการ ตรวจวัดควันดำรถบรรทุกและรถโดยสาร พร้อมอาจมีการปรับเวลาเดินรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไปเข้าเขตพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ให้สอดคล้องกับสภาพการจราจรและการใช้รถใช้ถนนของประชาชนในปัจจุบัน โดยจะสามารถเดินรถได้หลังเวลา 24.00 -04.00 น. 

ทั้งนี้จะต้องมีการสื่อสารกับผู้ประกอบการที่ใช้รถบรรทุก 10 ล้อและดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป นอกจากนี้ขบ.จะเพิ่มจุดบริการนอกสถานที่ในเวลาราชการ เพื่อให้บริการตรวจสภาพและดำเนินการทางทะเบียนและภาษีรถ ณ สถานีขนส่งสินค้าพุทธมณฑล สถานีขนส่งสินค้าร่มเกล้า และสถานีขนส่งสินค้าคลองหลวง

ส่วนกรมทางหลวง(ทล.)มีแผนติดตั้งระบบปล่อยฝอยละอองน้ำความดันสูง บริเวณด่านเก็บเงินบนทางหลวงพิเศษ อีก 7 แห่ง ดังนี้ บริเวณหลังคาคลุมตู้เก็บค่าผ่านทาง (Canopy) ด่านเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางบางปะกง ,หนองขาม 1 ,หนองขาม 3 ,ทับช้าง 1 (ช่องทางที่1-7) ,ทับช้าง 2 (ช่องทางที่1-7) ,โป่ง 3และพัทยา(ขาออก) โดยคาดว่าจะดำเนินการติดตั้งแล้วเสร็จภายในต้นเดือน ต.ค.62

สำหรับกรมทางหลวงชนบท(ทช.)นั้น กำหนดมาตรการลดฝุ่น โดยหากพบว่าการก่อสร้างเกิดฝุ่นละอองเพิ่มขึ้นจนสังเกตได้ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 วัน ให้พิจารณาหยุดกิจกรรมก่อสร้าง เพื่อสังเกตการณ์เปลี่ยนแปลงเพื่อพิจารณาดำเนินการแก้ไข ทั้งนี้ขอให้หน่วยงานของผู้ว่าจ้างจัดทำบัญชีเครื่องจักร ระบุประเภทรถและหมายเลขทะเบียนของแต่ละโครงการ เพื่อพร้อมในการประสานสำนักงานขนส่งจังหวัดในการจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบความสมบูรณ์ของเครื่องจักรเพื่อลดมลภาวะ 

นอกจากนี้ได้มีการประสานงานขอความร่วมมือกับ บก.จร.และตำรวจจราจรในพื้นที่เพื่อกวดขันและเข้มงวดไม่ให้มีการจอดรถบนพื้นผิวถนนที่จราจรแออัด เช่น ถนนราชพฤกษ์ ถนนกัลปพฤกษ์ โดยที่ผ่านมา ทช.ได้มีการประสานงานกับตำรวจจราจรมาโดยตลอดถึงการห้ามจอดรถบริเวณห้ามจอด