- เฉพาะเดือนก.ย.62ลงทุนในไทยแล้ว18ราย
- จ้างงานคนไทย428ราย-ถ่ายทอดเทคโนโลยี
- ส่วน9เดือนขนเงินมาแล้วกว่า2หมื่นล้านบาท
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เปิดเผยว่า เดือนก.ย.62 คณะกรรมการฯ ได้อนุญาตให้คนต่างชาติ 18 ราย ประกอบธุรกิจในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติจากญี่ปุ่น สิงคโปร์ และฮ่องกง ซึ่งมีการนำเงินเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจกว่า 470 ล้านบาท และส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานคนไทย 428 คน รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุน
สำหรับธุรกิจที่คนต่างด้าวได้รับอนุญาต ได้แก่ ธุรกิจบริการให้แก่บริษัทในเครือ/ในกลุ่ม 6 ราย เงินลงทุน 208 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากญี่ปุ่น ฮ่องกงและสิงคโปร์ , ธุรกิจบริการให้แก่ลูกค้า 5 ราย เงินลงทุน 65 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนสิงคโปร์ บริติชเวอร์จิ้น และญี่ปุ่น, ธุรกิจค้าปลีก/ค้าส่ง 2 ราย เงินลงทุน 24 ล้านบาท โดยเป็นนักลงทุนจากญี่ปุ่น และสเปน และธุรกิจบริการเป็นคู่สัญญาเอกชน 5 ราย มีเงินลงทุน 173 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากฮ่องกง ฝรั่งเศส และจีน
”ในเดือนก.ย.62 จำนวนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 5 ราย หรือเพิ่มขึ้น 38% ในขณะที่เงินลงทุนลดลง 4,742 ล้านบาท หรือลดลง 91% เพราะเดือนส.ค.62 มีผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจซึ่งต้องใช้เงินลงทุนสูง คือ บริการออกแบบทางวิศวกรรม และบริหารจัดการโครงการปลดประจำการเรือผลิตและเก็บปิโตรเลียม เป็นต้น”
นายวุฒิไกร กล่าวต่อว่า ในเดือนม.ค.-ก.ย.62 คนต่างด้าวได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการในไทยแล้ว 155 ราย มีเงินลงทุน 21,644 ล้านบาท โดยจำนวนกิจการลดลง 42 ราย เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เงินทุนเพิ่มขึ้น 12,864 ล้านบาท เพราะในปี 62 มีต่างชาติลงทุนประกอบธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง เช่น บริการออกแบบ จัดซื้อจัดหา ติดตั้ง ตรวจสอบ รวมทั้งการแก้ไขความชำรุดบกพร่องและบำรุงรักษาโครงการรถไฟฟ้ามหานครสายสีน้ำเงิน เป็นต้น