กังวลเจรจาการค้าจีน-สหรัฐฯไปไม่รอด ดาวโจนส์เปิดตลาดดิ่งกว่า 100 จุด



  • นักลงทุนเทขายเพื่อรอดูความคืบหน้าการลงนามข้อตกลงการค้า
  • ขณะที่จับตาตัวเลขการจ้างงาน-ว่างงานเริ่มขยับตัวไม่สวย
  • หุ้นแอปเปิลฝ่าด่านอรหันต์ ใครแดงไม่สนเราบวก 1.64%

เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวอยู่ที่ 27,017.39 จุดดิ่งลง 169.30 จุด หรือ-0.62% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวอยู่ที่ 3,033.24 จุดลดลง 13.53 จุด หรือ -0.44%ส่วนดัชนีแนกแด็กส์ คอมโพซิท อยู่ที่ 8,280.60 จุดลดลง 23.37 จุดหรือ -0.28% นักลงทุนเทขายเพื่อรอดูสถานการณ์การเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางตลาดลบ หุ้นแอปเปิลบวกได้ 1.64%

รายงานข่าวจากสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ระบุว่า เจ้าหน้าที่จีนยีงมีความไม่มั่นใจเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าในระยะยาวกับสหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนยังคงมีความมั่นใจต่อความสำเร็จในการเจรจาเพื่อยุติสงคราการค้้า

แม้ ทำเนียบขาวยืนยันว่า สหรัฐและจีนจะยังคงหาทางบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกภายในกรอบเวลาที่กำหนด แม้ว่าชิลียกเลิกการประชุมเอเปกในเดือนหน้าก็ตาม “เราหวังที่จะได้ข้อสรุปต่อการทำข้อตกลงการค้าครั้งประวัติศาสตร์ในเฟสแรกกับจีนภายในกรอบเวลาเดิม” แถลงการณ์ระบุ ซึ่งบ่งชี้ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสีจิ้นผิง จะลงนามในข้อตกลงการค้าในเดือนหน้า แม้ไม่มีการประชุมเอเปคก็ตาม

ล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ ระบุว่า ในอีกไม่ช้า เขาจะประกาศสถานที่ซึ่งเขาจะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับผู้นำจีน ทางด้านทำเนียบขาวยืนยันว่า สหรัฐและจีนจะยังคงหาทางบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกภายในกรอบเวลาที่กำหนด

ข้อความในทวิตเตอร์ยังระบุด้ววยว่า “จีนและสหรัฐกำลังดำเนินการร่วมกันในการคัดเลือกสถานที่ใหม่ในการลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรก ซึ่งจะมีเนื้อหา 60% ของข้อตกลงการค้าทั้งหมด หลังจากการประชุมเอเปคในชิลีได้ถูกยกเลิกไป และผมจะประกาศสถานที่ใหม่ในไม่ช้า ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงจะเป็นผู้ลงนามในข้อตกลงดังกล่าว”

ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ในวันพรุ่งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 85,000-89,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 136,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ส่วนอัตราการว่างงานคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.6% จาก 3.5% ในเดือนก.ย.

นักวิเคราะห์ระบุว่า การดิ่งลงของตัวเลขการจ้างงาน และการเพิ่มขึ้นของอัตราการว่างงาน มีสาเหตุจากการผละงานประท้วงเป็นเวลา 40 วันของพนักงานบริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ (GM) จำนวน 46,000 คน ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐมองว่าพนักงานที่ทำการประท้วงโดยไม่ได้รับเงินเดือนจะถูกนับเป็นผู้ว่างงาน

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยออกมาแล้ว พบว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ เท่ากับการเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค. การใช้จ่ายของผู้บริโภคได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อรถยนต์ และการใช้จ่ายด้านการรักษาสุขภาพ

แต่ในส่วนรายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย. หลังจากพุ่งขึ้น 0.5% ในเดือนส.ค. ตัวเลขค่าจ้างทรงตัว หลังจากพุ่งขึ้น 0.6% ในเดือนส.ค. ส่วนตัวเลขการออมเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.38 ล้านล้านดอลลาร์ จากระดับ 1.35 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค.