กอ.รมน.แจงทำตามหน้าที่แจ้งความ 7 พรรคฝ่ายค้าน



พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ชี้แจงกรณี พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะ ผอ.รมน.ภาค 4 และพล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้ชำนาญการ กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า แจ้งความดำเนินคดีกับผู้เข้าร่วมเสวนา พลวัตแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ สู่นับหนึ่งรัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งมีข้อเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 1 ว่า การดำเนินคดีมีความจำเป็นเรื่องการปฏิบัติงานตามหน้าที่ของฝ่ายกฎหมายใน กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า อยู่แล้ว เพราะข้อความที่มีการพาดพิงไปถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 1 ทำให้เกิดความไม่สบายใจต่อหลายฝ่าย จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง ขอยืนยันว่าทุกอย่างปฏิบัติตามกรอบกฎหมาย หากเพิกเฉยหรือละเว้น เจ้าหน้าที่อาจเข้าข่ายผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนผลการตัดสินจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับศาลเป็นผู้ชี้ขาด ทุกคนควรมีความเข้าใจตรงกันและเคารพการตัดสินของศาลที่ถือเป็นที่สุด

“ขอยืนยันว่ากอ.รมน.ไม่ได้รับคำสั่งจากใครให้มาดำเนินการ และไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง แต่เป็นการปฎิบัติตามกรอบกฎหมาย เพราะต้องทำตามหน้าที่ตามกรอบกฎหมายหากไม่ทำหรือหากนิ่งเฉย เจ้าหน้าที่จะมีความผิด เนื่องจากสิ่งที่นักวิชาการใช้คำพูดในการเสวนาทำให้เกิดความไม่สบายใจของหลายฝ่าย ซึ่งกรณีการแจ้งความนี้ขอย้ำว่าเป็นมิติของความมั่นคงในแง่ของข้อกฎหมายเท่านั้น ส่วนศาลจะตัดสินอย่างไรเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องเคารพคำตัดสินศาล”พล.ต.ธนาธิป กล่าว


ส่วนกรณีฝ่ายค้านแจ้งความกลับกอ.รมน. นั้น พล.ต.ธนาธิป กล่าวว่า ไม่มีผลกระทบต่อการทำงานของกอ.รมน.และ การปฏิบัติหน้าที่ของกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เพราะ กอ.รมน.ไม่ได้มีหน้าที่เรื่องนี้เรื่องเดียว ต้องทำงานในทุกมิติต่อไป โดยเฉพาะงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย

พล.ต.ธนาธิป กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเรียกร้องให้ปฏิรูป กอ.รมน.ว่า  คงจะเป็นลักษณะการให้ปรับโครงสร้างกอ.รมน.มากกว่า ขณะนี้ใช้พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 และมีการปรับโครงสร้างเพื่อให้สอดคล้องกับมิติความมั่นคงที่เกิดขึ้น และความต้องการของประชาชนในทุก ๆ โอกาส 

ซึ่งการปรับโครงสร้างได้กระทำอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปี 2559-2560  การดำเนินการ ของ กอ.รมน. สอดคล้องกับปัญหาของชาติในทุกมิติ เช่น  การแก้ไขปัญหายาเสพติด ได้มีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมาย จนทำให้ระดับความน่าเชื่อถือของไทยเพิ่มขึ้น ปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดูแลป่าไม้ไม่ให้ถูกทำลายป่า ซึ่งภารกิจทั้งหมด เป็นเรื่องที่มาจากการปรับโครงสร้างให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ด้วยการเพิ่มบทบาทให้ กอ.รมน. เป็นแกนกลางประสานงานเพื่อขับเคลื่อนทุก ๆ มิติ

พล.ต.ธนาธิป กล่าวต่อว่า ส่วนที่มีการวิจารณ์กันว่า คสช.ถ่ายโอนอำนาจมาที่ กอ.รมน. นั้นในเรื่องนี้มองว่า จะเป็นลักษณะการเพิ่มบทบาทการทำงาน รวมทั้งเพิ่มอำนาจบทบาทในการประสานงานขับเคลื่อนงานต่าง ๆ ในทุกมิติมากกว่า ปัจจุบันกอ.รมน.ดูแลงาน และเป็นแกนกลาง ผู้ประสานงานลงไปช่วยเหลือ กรณี ที่หน่วยงาน ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเองได้ บทบาทการทำงาน ของกอ.รมน สะท้อนผ่าน โครงการผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยกับ โครงการพาคนกลับบ้าน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ และได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี สามารถนำคนในพื้นที่กลับมาแก้ปัญหาในพื้นที่ได้ ซึ่งทั้ง 2 โครงการนี้สามารถสร้างและทำให้เกิดการพัฒนาประเทศเป็นมิตรกับทุกคน แม้จะมีความเห็นต่าง แต่การเห็นประชาชนเป็นศัตรูไม่ใช่บริบทของกอ.รมน. อย่างแน่นอน

ส่วนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.ต.ธนาธิป กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.รมน. มอบนโยบายให้ กอ.รมน. เป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส และจะเข้ามาดูแลประชาชนให้เกิดความสงบสุข สันติ ในทุกๆ ชาติ ทุกๆ ศาสนา อย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ความเห็นต่างของประชาชนทุกฝ่ายทุกกลุ่มเป็นเรื่องที่สามารถยอมรับได้ และกอ.รมน.ไม่เคยมองประชาชนเป็นศัตรู และกอ.รมน. ยอมรับในกติกาทุกอย่าง.