

- เพิ่มเกณฑ์รายได้ครอบครัวไม่เกิน 3.6แสนบาทต่อปี
- เพิ่มค่าครองชีพรายละ 600 บาทต่อเดือน
- พร้อมเตรียม 3.4 หมื่นล้านบาท ให้กู้เรียนปีนี้
นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ได้เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ และค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพของประชาชนจำนวนมาก กองทุนขอยืนยันว่าผู้ปกครองที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะไม่มีเงินส่งให้ลูกหลานได้เรียน เนื่องจากกองทุนมีเงินเพียงพอให้ทุกคนได้กู้ยืมเรียนอย่างแน่นอน โดยในปีการศึกษา 2563 กองทุนได้ปรับเกณฑ์คุณสมบัติเฉพาะเกี่ยวกับรายได้ครอบครัวของผู้กู้ยืมที่ขาดแคลนทุนทรัพย์จากเดิมรายได้ไม่เกิน 200,000 บาท/ปี เป็นไม่เกิน 360,000 บาทต่อปี
อีกทั้ง กองทุนได้มีการปรับเพิ่มค่าครองชีพรายเดือนให้ผู้กู้ยืมทุกระดับการศึกษาอีกรายละ 600 บาท/เดือน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จากเดิม 1,200 บาท เป็น 1,800 บาทต่อเดือน ส่วนระดับการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง(ปวส.) และปริญญาตรี จากเดิม 2,400 บาท เป็น 3,000 บาทต่อเดือน
ส่วนนักเรียน นักศึกษาที่กำลังมองหาโอกาสทางการศึกษาเพื่อต่อยอดสู่สาขาวิชาที่เป็นความต้องการหลัก โดยเฉพาะสาขาวิชาที่อยู่ในโครงการส่งเสริมการพัฒนาทุนมนุษย์ (Human Capital) เพื่อรองรับ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายและ 3 โครงสร้างพื้นฐาน โดยให้สิทธิพิเศษกับผู้กู้ยืมที่เรียนระหว่างปีการศึกษา 2562 – 2566 เมื่อสำเร็จการศึกษาในสาขาวิชาที่กำหนดจะคิดดอกเบี้ยอัตราไม่เกิน 0.5% ต่อปี
สำหรับผู้กู้ยืมระดับปริญญาตรี จะได้ส่วนลดเงินต้น 30%ส่วนผู้กู้ยืมระดับอาชีวศึกษา จะได้ส่วนลดเงินต้น 50% เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจ พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ(อีอีซี) รวมถึงเป็นการป้อนกำลังคนในสายอาชีวะ และสายวิชาชีพที่ยังขาดแคลนสู่ตลาดแรงงานทั่วประเทศ
“ทั้งนี้ กองทุนได้เตรียมงบประมาณให้กู้ยืมจำนวนประมาณ 34,000 ล้านบาท สำหรับนักเรียน นักศึกษาที่คาดว่าจะกู้ยืมในปีนี้จำนวน 59,000 ราย ซึ่งเงินที่ใช้ในการให้กู้ยืมดังกล่าว เป็นเงินที่ได้รับชำระคืนจากผู้กู้ยืมรุ่นพี่ โดยไม่ได้ใช้งบประมาณแผ่นดินตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา และขณะนี้ กองทุนได้เปิดระบบ e-Studentloan เพื่อให้นักเรียน นักศึกษายื่นแบบคำขอกู้ยืมล่วงหน้าแล้ว ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.studentloan.or.th หรือสอบถามที่ Line@กยศ. หรือโทร. 0- 2016- 4888”
สำหรับ10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ประกอบด้วย 1.อุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต 2.อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ 3. อุตสาหกรรมท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดี และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 4.การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ 5. อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร 6.อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ 7. อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ 8. อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ 9.อุตสาหกรรมดิจิทัล และ 10.อุตสาหกรรมแพทย์ครบวงจร และ 3 โครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ 1.อุตสาหกรรมระบบราง 2.อุตสาหกรรมพาณิชย์นาวี และ 3. อุตสาหกรรมโลจิสติกส์